นักวิชาการไทยเทียบจุดบินมาเลย์ตก ลึกเท่าความสูงตึกใบหยก10เท่า
คณบดีคณะประมง เกษตรศาสตร์ ระบุจุดเครื่องบินMH370 มาเลเซียตก กลางมหาสมุทรอินเดีย ชี้เท่ากับความสูงตึกใบหยก2 สิบเท่า เชื่อโอกาสเจอริบหรี่
ที่มาภาพ:AustralianMaritimeSafetyAuthorit
ในคืนวันที่ 24 มีนาคม 2557 นายนาจิบ ลาซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวยืนยันว่าได้รับข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมอิมาร์แซทจากหน่วยงานวิเคราะห์อุบัติเหตุของสหราชอาณาจักรโดยบ่งชี้ว่า เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 ซึ่งหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2557 ได้บินไปตามเส้นทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย และตำแหน่งสุดท้ายที่ดาวเทียมสามารถตรวจจับได้ คือ กลางมหาสมุทรอินเดียทางตะวันตกของเมืองเพิร์ทประเทศออสเตรเลีย โดยไม่มีร่องรอยของการลงจอดในเกาะแห่งใด พร้อมกับสรุปว่าเที่ยวบิน MH370 ตกลงสู่ตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียแล้วนั้น
ประกอบกับในโลกออนไลน์ มีการแชร์ภาพกราฟฟิก ความลึกของมหาสมุทรอินเดีย เทียบกับขนาดเครื่องบิน MH370 ที่ทางการมาเลเซียบอกว่าตกในมหาสมุทรอินเดียนั้น มีขนาดเพียง 63.7 เมตร เท่านั้น
จากประเด็นดังกล่าว ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ คณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ความลึกโดยเฉลี่ยหากบินไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียไปทางเมืองเพิร์ทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 เมตร หรือหากเทียบกับตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย อย่างตึกใบหยก 2 ก็คงประมาณ 10 เท่า
"ถามว่าที่ความลึกในระดับนี้มีโอกาสจะหาเจอหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่าเครื่องบินตกไปในสภาพไหน หากตกแบบแตกเป็นชิ้นเล็กคงหายาก หรือตกแบบพุ่งจมน้ำลงไป การตกแบบนั้นตามทฤษฎีไม่ได้แตกกระจุยเป็นลำ ก็หาง่ายขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง"
ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ประเด็นตอนนี้จากการแถลงของมาเลเซียคือเครื่องบินจมน้ำไปแล้ว ดังนั้นการจะค้นหาให้ได้ตามเป้าหมาย คงทำได้ยากว่า และอาจจะต้องใช้โซนาร์ในการค้นหา
และเมื่อให้เทียบความยากง่าย การค้นหาซากเครื่องบิน MH370 ของมาเลเซีย กับเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-200 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินเอเอฟ 447 ที่ทำการบินจากนครริโอ เดอ จาเนโร บราซิล ไปยังกรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อปี 2552 ที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์เกิดสูญหายไปจากจอเรดาร์ระหว่างทำการบินเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทีมค้นหาต้องใช้เวลากว่า 2 ปี ถึงจะพบซากของเครื่องบินนั้น ดร.ธรณ์ กล่าวว่า กรณีเครื่องบินของฝรั่งเศสที่ตกไปครั้งนั้นหาไม่ยาก เพราะรู้จุดที่แน่นอน ประกอบกับมีเศษซากที่ชัดเจน แต่ของมาเลเซีย ยังไม่มีร่องรอย
“ในความเห็นส่วนตัวตอนนี้แม้จะมีแถลงการณ์ก็บอกเพียงว่า เจอวัตถุลึกลับจมหายไป ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าใช่เครื่องบิน MH370 ถ้าใช่สมมติฐานแรกจมหมดลำ 2. จมลงไปลึกก็ต้องแตกกระจุยเพราะความดันมีมาก ดังนั้นถ้ามองในมุมส่วนตัวหรือไม่คิดว่า มีโอกาสน้อยเพราะป่านนี้ก็ยังไม่เห็นมีร่องรอยอะไรเหลือและอาจจะหาไม่เจอ”
คณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวด้วยว่า หากเครื่องบินตกลงไปในทะเลจริงที่ระดับความลึกขนาดนี้จะต้องแตกมีเศษเครืองบินลอยไปลอยมา ไม่ก็ต้องเจอเศษเครื่องบินบนผิวน้ำ หรือไม่ก็คราบน้ำมัน แต่นี่ผ่านมาแล้วเกือบ 20 วันก็ยังไม่มีข่าว โดยปกติการค้นหาผ่านมาแล้ว 10 วันหากยังไม่เจออะไรโอกาสในการหาให้เจอก็ยิ่งริบหรี่ลงเรื่อยๆเพราะคงไม่มีเศษเครื่องบินที่ไหนลอยอยู่เหนือผิวน้ำได้นานเป็น 20 วัน
อย่างไรก็ตาม ดร.ธรณ์ กล่าวด้วยว่า หากระดับการค้นหามีความจริงจังก็มีโอกาสที่จะเจอ หากเครื่องบินตกลงไปในตำแหน่งดังกล่าวจริง คืออาจจะมีเรือออกไปสัก 40-50 ลำ เป็นเดือนๆในการค้นหา เพราะหากหวังพึ่งแค่ดาวเทียมอย่างเดียว เป็นไปได้ยากมาก
ภาพเปรียบเทียบ ความลึกของมหาสมุทรอินเดีย เทียบกับบรรดาตึกที่สูงที่สุดในโลก