"นิสิต"ไขเบื้องหลังโผนายกฯคนกลาง ข้อมูลจากแหล่งข่าว“สายตรง”
“…ทีมงานของตนมีประมาณ 4 – 5 คน โดยแต่ละคนก็จะมีสายข่าวของตัวเอง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล โดยเฉพาะสายข่าวเชิงลึก ซึ่งไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย แต่พวกเขาเหล่านั้นมีความเชื่อมโยง “โดยตรง” กับรายชื่อของผู้ที่อาจเป็น “นายกฯคนกลาง” ซึ่งเมื่อให้ข้อมูลเรามาก็พบว่าตรงกับข้อมูลที่เรารวบรวมมาโดยตลอด…”
กลายเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง
ภายหลังนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดโผรายชื่อ “นายกรัฐมนตรีคนกลาง” ออกมาเฉียด 10 รายชื่อ โดยแต่ละชื่อการันตีว่าเป็นบุคคลผู้เคยมีบทบาทสำคัญในแวดวงสังคม – การเมืองไทยอย่างยิ่ง
เช่น นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรมว.กลาโหม – อดีตผบ.ทบ. และนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นเต็งหนึ่ง เต็งสอง และเต็งสามตามลำดับ
โดยระบุว่าข้อมูลดังกล่าว รวบรวมจาก “โรงเรียน นปช.” พร้อมทั้งยังสำทับว่ามีความน่าเชื่อแน่นอน ดังที่นายณัฐวุฒิ กล่าวไว้ก่อนจะเปิดโผนายกฯคนกลางว่า “นี่ไม่ใช่การกล่าวหา ใส่ร้าย หรือสร้างความเกลียดชัง แต่คือการหยิบยกเอาชื่อที่ผมได้มาจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ทั้งที่เป็น “นักการเมือง” “คนในแวดวงอื่น” แต่บังเอิญมาเกี่ยวข้องกับข้อมูลเหล่านี้ หรือแม้แต่ “เพื่อมิตรสื่อมวลชน” บางกลุ่ม”
อย่างไรก็ดี มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า “ข้อมูล” ที่นายณัฐวุฒินำมาเผยแพร่นั้น มีความเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด
และใช้หลักเกณฑ์อะไรมาเป็นตัวชี้วัดว่า ใครสมควรเป็น “นายกฯคนกลาง” ?
เพื่อไขคำตอบ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดต่อไปยังนายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน และแกนนำ นปช. ในฐานะ “ผู้อำนวยการโรงเรียน นปช.” อธิบายวิธีการหาข้อมูลดังกล่าวว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่
“ข้อมูลดังกล่าวได้มาจาก “สายข่าว” หลากหลากสายอาชีพ ซึ่งเชื่อถือได้อย่างแน่นอน เพราะมีการติดตามรวบรวมเป็นระยะเวลายาวนาน เสร็จแล้วจะนำมากลั่นกรองคัดเลือกจนตกผลึก และจึงนำมาเปิดเผยได้ในท้ายที่สุด”
เป็นคำยืนยันของนายนิสิต ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า ทีมงานของตนมีประมาณ 4 – 5 คน โดยแต่ละคนก็จะมีสายข่าวของตัวเอง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล
“โดยเฉพาะสายข่าวเชิงลึก ซึ่งไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย แต่พวกเขาเหล่านั้นมีความเชื่อมโยง “โดยตรง” กับรายชื่อของผู้ที่อาจเป็น “นายกฯคนกลาง” ซึ่งเมื่อให้ข้อมูลเรามาก็พบว่าตรงกับข้อมูลที่เรารวบรวมมาโดยตลอด”
ส่วนข้อครหาที่ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือนั้น นายนิสิต ระบุว่า เรื่องดังกล่าวก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล จะวิพากษ์วิจารณ์ก็ได้ หรือจะเชื่อถือก็ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีเมื่อเราเผยแพร่ข้อมูลออกไป บุคคลส่วนใหญ่ในรายชื่อเหล่านั้น ยังไม่เห็นออกมาปฏิเสธเลย
“หลายคนกลับเลือกที่จะเงียบ ถ้าคิดว่าข้อมูลไม่จริง หรือไม่ได้เกี่ยวโยงกัน ก็ออกมาปฏิเสธสิ”
ส่วนกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และนายวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งออกมาปฏิเสธโผรายชื่อดังกล่าวแล้วนั้น นายนิสิต หัวเราะพร้อมยืนยันว่า เป็นเพียงการปฏิเสธในแง่ข่าว ในเชิงการเมือง แต่กลับไม่ปฏิเสธในเนื้อหาข่าว เช่น มีการพูดว่าแหล่งข่าวไม่น่าเชื่อถือ เป็นต้น
“ถ้าไม่เกี่ยวข้องจริง ก็ขอให้พูดชัด ๆ ไปเลย ให้บอกไปเลยว่า ผมไม่เกี่ยวข้อง แม้เชิญมาก็ไม่ไปรับอย่างเด็ดขาด ต้องพูดแบบนี้ แต่มาบอกว่าคนให้ข่าวไม่น่าเชื่อถือ มันไม่ได้หรอก”
ทั้งหมดคือเบื้องหลังที่มาของโผรายชื่อ “นายกฯคนกลาง” ที่ทำเอาบางฝ่าย “สะดุ้งสะเทือน” หรือบางฝ่ายที่เลือก “ปิดปากเงียบ” ไปตาม ๆ กัน
ส่วนข้อมูลดังกล่าวจะจริงหรือไม่ ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการเสพย์ข้อมูลข่าวสารก็แล้วกัน