"เพื่อไทย" แถลงการณ์โต้ "ศาลรธน." ซัดเลือกตั้งโมฆะสร้างปัญหาใหม่
"เพื่อไทย" แถลงการณ์โต้ "ศาลรธน." ซัดกำเนิดจากคณะรัฐประหาร เป็นปฏิปักษ์ คำวินิจฉัยเลือกตั้งโมฆะจะสร้างปัญหาใหม่ สับทฤษฎีสมคบคิดมุ่งทำลายฝ่ายประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 ที่พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการบริหาร และแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ร่วมกันแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีมติให้เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นโมฆะ โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ว่า 1.พรรคขอยืนยันในข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 (1) ไม่ได้ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยเกี่ยวกับกรณีนี้ และไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราใดให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญเสมือนเป็นการบัญญัติรัฐธรรมนูญขึ้นใช้เองตามใจชอบ เป็นการเวนคืนอำนาจอธิปไตยของประชาชนไปเป็นของศาลรัฐธรรมนูญโดยมิชอบ
2.คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการสร้างปัญหา และมีผลกระทบต่อส่วนรวม จะเป็นบรรทัดฐานให้มีการดำเนินการในลักษณะนี้ต่อไป แม้จะออกพ.ร.ฎ.จัดการเลือกตั้งใหม่ ถ้ายังมีการขัดขวางการเลือกตั้ง ผลก็จะออกมาว่าการเลือกตั้งใหม่เป็นโมฆะอีก จะต้องใช้งบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนอีกเท่าไหร่ถึงจะจัดการเลือกตั้งได้ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับผิดชอบอย่างไรต่อการตัดสินของตน คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกลับจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และเป็นที่น่าเห็นใจประชาชนที่ต้องยอมฝ่าอันตรายเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
3.พรรคเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อบ้านเมืองในขณะนี้ เกิดจากความต้องการการเมืองนอกระบบของกลุ่ม กปปส.และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องตาม มาตรา 68 ศาลรัฐธรรมนูญกลับไม่รับวินิจฉัย มิหนำซ้ำกลับไปบอกว่าเป็นการชุมนุมโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ
4.พรรคเห็นว่าที่มาและทัศนคติของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ มีปัญหาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากมีกำเนิดมาจากการแต่งตั้งตามคำสั่งของคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 สร้างผลงานที่ส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ต่างกับคดีที่มีการร้องพรรคประชาธิปัตย์และนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งคดีของม็อบกปปส. จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมถึงความไม่เป็นกลางทางการเมืองของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่
5.พรรคไม่เคยปฏิเสธการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าการใช้อำนาจนั้นอยู่ในกรอบแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ดังนั้นพรรคย่อมมีความชอบธรรมที่จะดำเนินการทุกวิธีทาง เพื่อรักษาไว้ซึ่งกติกาตามระบอบประชาธิปไตย
6.การเลือกตั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เกิดจากการกระทำที่ไม่สุจริตของหลายฝ่าย ในขณะที่พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่น ๆ 50 กว่าพรรค ตลอดจนประชาชน 20 ล้านคนเศษได้ใช้สิทธิและทำหน้าที่โดยสุจริต ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับวินิจฉัยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คนไม่สุจริตและไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต้องการ จึงเป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันศาล นำความเสื่อมเสียต่อสถาบันอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นการซ้ำเติมให้เกิดความเจ็บช้ำน้ำใจและจงแกจิตใจของผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมอย่างไม่ใยดีและไม่รับผิดชอบ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อประมวลภาพของการมุ่งทำลายล้างพรรคเพื่อไทย และกลุ่มการเมืองฝ่ายพรรคเพื่อไทย จะเห็นได้ว่าการใช้ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) ของกลุ่มบุคคลและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วงชิงอำนาจทางการเมือง และมุ่งทำลายฐานอำนาจทางการเมืองฝ่ายที่นิยมประชาธิปไตย โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทำลายทางการเมืองได้ปรากฏภาพให้เห็นโดยประจักษ์ ทั้งกระทำโดยองค์กรเอง หรือรับลูกกันเป็นทอด ๆอย่างเป็นระบบ อันเดียวกันกับเมื่อปี 2549 พรรคจึงขอให้ประชาชนได้ร่วมกันต่อสู้กับการใช้อำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยวิธีการสันติ
ภาพจาก : www.go6tv.com