“ธิดา”ยันดัน“จตุพร”ขึ้น ปธ.นปช.เอง หลังไม่มีตำแหน่งอะไรมา 2-3 ปี
“ธิดา” ยันเป็นผู้ริเริ่มดัน“จตุพร” ขึ้นประธาน นปช.เองกับมือ ให้บทบาทเด่นขึ้น ในฐานะผู้นำ หลังไม่มีตำแหน่งอะไรมา 2-3 ปี ชี้จังหวะเหมาะสม ยังหวังได้รับความไว้วางใจให้คำปรึกษาได้อยู่
จากกรณีที่ประชุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แต่งตั้งให้นายจตุพร พรหมพันธ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ขึ้นเป็นประธาน นปช. ต่อจากนางธิดา ถาวรเศรษฐ และให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการรมช.พาณิชย์ รับตำแหน่งเลขาธิการ นปช. ในการชุมนุมใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2557 นั้น
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2557 นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ตนเป็นคนริเริ่มเสนอในที่ประชุมเองว่าต้องการให้นายจตุพร ขึ้นมาเป็นประธานแทนตน ตั้งแต่ในการประชุมคราวก่อนแล้ว แต่ขณะนั้นนายจตุพรขอผัดผ่อนไว้ก่อน อย่างไรก็ดีขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นสถานการณ์สำคัญ ตนจึงได้นำเรื่องนี้กลับมาพูดอีกครั้ง และที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งนายจตุพรขึ้นเป็นประธาน และให้นายณัฐวุฒิ เป็นเลขาธิการในที่สุด
“คุณอย่าลืมว่าคุณจตุพร ก็เหมือนกับไม่มีตำแหน่งอะไรมาตั้ง 2 – 3 ปี และสมัยที่ฉันเป็นประธานก็ทำงานอยู่ด้วยกันมาตลอด เลยรู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เพียงแต่ให้บทบาทเขามากขึ้น เด่นขึ้นในฐานะประธาน และได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอย่างเต็มภาคภูมิ” นางธิดา กล่าว
เมื่อถามว่าภายใต้การนำของคุณจตุพร นปช. ชุดใหม่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด นางธิดา กล่าวว่า การปรึกษาหารือระหว่างแกนนำก็ยังเหมือนเดิม เพราะเราพยายามวางรากฐานการประชุมไว้อยู่ก่อนแล้ว และการนำโดยคณะกรรมการมันก็ยังอยู่ เพียงแต่ในบางเรื่องเขาก็อาจจะเจรจาในฐานะประธานได้เต็มที่กว่าเดิม
“สมัยฉันเป็นประธาน ก็ปรึกษาเขาทุกเรื่อง ดังนั้นตอนนี้เขาเป็นประธานแล้ว ก็หวังว่าจะปรึกษากันได้คล้าย ๆ เดิม ก็น่าจะยังเป็นอย่างนั้น” นางธิดา กล่าว
เมื่อถามว่ามีหลายคนกังวลว่าพอคุณจตุพรเป็นประธานแล้วท่าที นปช. จะแข็งกร้าวขึ้น นางธิดา กล่าวว่า ตอนที่เขายังไม่ได้เป็นประธานเขาก็ปราศรัยแบบนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญคือระมัดระวัง และพูดเรื่องสันติวิธีมากกว่าตนด้วยซ้ำ แต่คนก็กลับยังมองว่าเขาเป็นฮาร์ดคอร์อยู่ดี
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีท่าทีอย่างไรบ้างเมื่อ นปช. เปลี่ยนประธานคนใหม่ นางธิดา กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่ได้คุยกับคนในรัฐบาลเลย เนื่องจากนี่เป็นเรื่องของ นปช. ไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง และในหมู่ของพวกเราก็ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ไม่อย่างนั้นจะมีการพูดกันไปแบบผิด ๆ