พลัง “เทพธิดาปูแดง” (1) คือ แรงแห่งศรัทธา
ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนได้ส่งเสียงสนับสนุนนายกฯหญิงคนแรกของประเทศ คือ คุณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างอบอุ่น ท่วมท้น ล้นหลาม และเต็มไปด้วยการฝากความหวังที่จะนำพาประเทศไปข้างหน้า ให้ก้าวไปไกล ถือได้ว่าเป็นพลังแบบ “เทพ” – “ธิดา” – “ปู” และ “แดง” อย่างแท้จริง
พลังเสียงประชาชนทั่วประเทศขนาดนี้ เสียงกว่า 15 ล้านเสียง แบบแลนด์สไลด์นี้ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ไม่ใช่เพราะซื้อด้วยเงิน ไม่ใช่เพราะเบาปัญญา ไม่ใช่เพราะขาดคุณธรรม แต่เป็นเพราะแรงแห่งศรัทธา ซึ่งสะท้อนข้อเตือนใจหลายประการ ในการที่กลุ่มคนเสื้อแดง และประชาชนมากมายได้เทใจเลือกพรรคเพื่อไทย ดังต่อไปนี้
1.ไม่ใช่การ “ซื้อเสียง” ด้วยเงิน : ผมเชื่อว่า คนไทยมีจิตสำนึกในธรรม การ “ขายเสียง” ก็รู้อยู่เต็มอก ว่า คนลงทุน จะต้องไปถอนทุนด้วยการทุจริตคอรัปชัน การขายเสียง เท่ากับมีส่วนร่วมในการโกงแผ่นดิน จึงไม่ใช่สิ่งที่คนเสื้อแดงคิดจะทำ หากตั้งใจจะทำแบบนั้น จะไม่ได้เสียงขนาดนี้ เพราะคนดีๆหลายคนจะกลัวมีส่วนร่วมในความบาป
2.ไม่ใช่ใบอนุญาต ในการ “โกงแผ่นดิน” : ผมเชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงและผู้ศรัทธาพรรคเพื่อไทยมีจิตใจที่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่ได้เลือกเพื่อให้มา “โกงแผ่นดิน” หากนักการเมืองหาเสียงว่า “เลือกผมเถอะครับ ผมจะไปโกงแผ่นดินมาแบ่งประโยชน์ให้พี่น้อง” ผมว่าเสียงจะไม่ได้เท่านี้ และจะมีกระแสตีกลับอย่างรุนแรง เพราะคนเสื้อแดง ก็คงยึดมั่นในหลักศีลธรรม ห้ามลักทรัพย์ ยิ่งเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน ก็เป็นเรื่องบาปกรรม อดีตผู้นำจึงอธิบายเสมอให้ทุกคนเชื่อว่า “ถูกกลั่นแกล้ง” “ศาลไทยเป็นศาลมิกกี้เมาส์” “รวยแล้วไม่โกง” การรักษา “ภาพ” นี้ให้ทุกคนเชื่อให้ได้ จึงยังรักษาศรัทธาได้ หากนักการเมืองยังจะ “โกงแผ่นดิน” กัน คนเสื้อแดง และผู้ศรัทธา ผู้รักความดี ก็คงเสียใจและเสียศรัทธา
3.ไม่ใช่ใบอนุญาต ในการ “ล้างความผิด” : ในสัปดาห์สุดท้าย เมื่อพรรคฝ่ายตรงข้าม ยกประเด็นว่า จะไม่ “ล้างความผิด” ให้คนบางคน พรรคเพื่อไทยก็รีบชี้แจงว่า พรรคไม่ได้อาสาเข้ามาเพื่อล้างความผิดให้คนๆเดียวเช่นกัน โดยเฉพาะหากทราบว่า ที่ศาลตัดสิน ก็ได้ชี้ขาดว่า การที่จำเลยและผู้คัดค้าน ให้การว่าโอนหุ้นให้น้องสาว พี่บุญธรรมสามี ลูกๆนั้น เป็นการโอนจริงนั้น เป็นการ “ให้การเท็จ” ที่จริงแล้ว สินทรัพย์นั้น ยังเป็นของท่าน พ.ต.ท. ทักษิณ การที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ท่านเหลือเงินแค่ “3 หมื่นล้านบาท” ก็สะท้อนว่า เงินที่ศาลคืนให้ 3 หมื่นล้านบาทนั้น ก็กลับไปที่เจ้าของที่แท้จริงทั้งหมด มิเช่นนั้น พี่บุญธรรมภรรยา ควรได้กว่า 8 พันล้านบาท น้องสาวควรได้ไปแล้ว 400 ล้านบาท ลูกชาย 9 พันล้านบาท และลูกสาวซึ่งกำลังจะแต่งงานกับเจ้าบ่าวผู้โชคดี ควรได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ! “ขัด” ความความจริงที่เงินกลับไปอยู่ที่เจ้าของแต่เพียงผู้เดียวแล้ว ท่าทีที่เริ่มยืนยันว่า การกลับมาหากเป็นปัญหาของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่สมควรดีแล้วจริงๆ
4.ไม่ใช่ใบอนุญาต ให้ “ทำประเทศล่มจม” : ในสมัยวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งมีรัฐบาลหน้าตาเครือๆกัน เคยมีทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิต่ำสุด 7 พันล้านเหรียญ สรอ. ต้องรับการช่วยเหลือจาก IMF คล้ายๆกรีกในยุคปัจจุบัน ในช่วงนี้ เรามีทุนสำรองฯถึง 190 พันล้านเหรียญ สรอ. สูงสุดในประวัติศาสตร์ไทย สูงเป็นที่ 13 ของโลก ผมไม่เชื่อว่าผู้ศรัทธาจะทำใจได้ที่ฐานะของประเทศจะต้องตกต่ำลงภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลที่เขาเลือก !
5.เป็นความรักในการ “อาสามาทำงานเพื่อประชาชน” : คนเสื้อแดง และผู้ศรัทธาพรรคเพื่อไทย เลือกพรรค เพราะประทับใจการคำสัญญาระหว่างหาเสียง ดังที่ล่าสุด ท่านได้ประกาศเรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการผลักดันภายหลังแถลงนโยบายต่อสภาฯ คือ (ก) การยกเลิกเงินเข้าสู่กองทุนน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น เบนซิน 95 ลดลง 7.50 บาท เบนซิน 91 ลดลง 7 บาท และดีเซล ลดลง 2 บาท (ข) การแก้ไขสินค้าแพง (ค) การจัดระเบียบประกันสุขภาพ (ง) การแก้ไขปัญหายาเสพติด (จ) การเร่งฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน (ฉ) การดำเนินการตามแผนปรองดองของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.
รวมถึงนโยบายอีกหลายเรื่องที่ นักวิชาการฟังแล้วแสดงความห่วงใย คือ (1) ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ (2) รายได้ผู้จบปริญญาตรีในหน่วยงานราชการ 15,000 บาท/เดือน (3) จำนำข้าวเกวียนละ 15,000 บาท (4) แท็ปเล็ตสำหรับเด็ก ป.1 (5) ลดภาษีเอกชนจาก 30% เป็น 23% ฯลฯ
การออกนโยบายเพื่อหาเสียงนั้น “ง่าย” ที่จะ “ให้มากๆ” และ “เก็บน้อยๆ” แต่ความยากคือการทำให้ “สมดุล” และ “เป็นจริง” ได้ แต่ประชาชนย่อมเชื่อและวางใจว่า “ได้คิดมาแล้วอย่างรอบคอบ” คนเสื้อแดงและผู้ศรัทธา มีความเชื่อและภูมิใจ ที่พรรคที่เขาเลือก สามารถมีนโยบายโดนใจได้เหนือกว่าใครๆ และมั่นใจว่าเป็นจริง
หากสิ่งใดที่จะทำไม่ได้ จึงไม่ใช่ปัญหาของปัจจัยอื่น แต่เป็นบทเรียนสำหรับผู้ศรัทธาและเลือกว่า เป็นเพราะไม่ได้ “คิดให้รอบคอบ” ก่อน หรือ “ขอพูดเอาคะแนนไว้ก่อน” แต่ถ้าทำไม่ได้ ค่อยไปคิดข้างหน้าว่าจะอธิบายอย่างไร ก็อาจจะทำให้เสียศรัทธาคนเสื้อแดง
นโยบายหลายเรื่อง กำลังได้รับเสียงสะท้อนให้กังวล เช่น ... ค่าแรง 300 บาท จะทำให้บางกิจการต้องปิดตัว บางธุรกิจต้องปิดตัวหรือไม่ ? แรงงานเขมรจะยึดไทยหรือไม่ ? ... งดเก็บเงินเข้ากองทุน จะสนับสนุนก๊าซหุงต้มหรือไม่ ? จะยังมีส่วนต่างระหว่างเบนซินกับก๊าซโซฮอลหรือไม่ ? กิจการเอธานอลจะเป็นอย่างไร ? ...ขึ้นค่าแรง ขึ้นราคาข้าว ลดเงินเข้ากองทุนน้ำมันอุดหนุนก๊าซหุงต้ม แล้วจะลดค่าครองชีพอย่างไร ? ... หลายเรื่องรัฐต้องใช้เงินเพิ่ม แล้วลดภาษีจะทำอย่างไร ? จะต้องกู้หนี้เพิ่มหรือไม่ ? จะต้องขายสมบัติชาติหรือไม่ ? จะต้องแบ่งขายแผ่นดินหรือไม่ ? จะเก็บภาษีเพิ่มหรือไม่ ? จะหาเงินจากหวยบนดินเพิ่มหรือไม่ ? (ที่เมืองจีน เป็นวิธีรีดภาษีประชาชนเพิ่มทางอ้อม และเมื่อมีการพนันมากขึ้น ปัญหาสังคมก็มากขึ้น) ก็คงต้องหาทางที่ลงตัวกันต่อไป...
“อำนาจและศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับ ความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง” เมื่อได้รับเสียงอย่างล้นหลาม ด้วยศรัทธาที่แรงกล้า ก็รักษาให้ดี อย่าให้คนที่รัก และศรัทธาต้องเสียใจก็แล้วกัน