นักวิชาการแนะปฏิรูปเลิก “โง่ จน เจ็บ” ต้องทำลายระบบสามานย์
เลขาธิการ กปปส.แจงเร่งปฏิรูป 6 เรื่องเพราะระยะเวลาจำกัด วอนประชาชนเข้าใจ เผยหากได้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ให้ดำเนินการปฏิรูปเรื่องที่เหลือ ด้านนักวิชาการแนะอยากเลิก จน เจ็บ ต้องทำลายการเมืองสามานย์ให้ได้
วันที่ 10 มีนาคม 2557 คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กปปส.) จัดเวทีระดมความคิดเพื่อการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ 1 “มวลมหาประชาชนเปลี่ยนประเทศไทยRestart Thailand” ณ ศูนย์เยาวชนสวนลุมพินี ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการเปิดเวทีระดมความเห็นภายใต้หัวข้อ “แก้ความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเข้มแข็ง” โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวเปิดงาน
นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับการพัฒนาประเทศไทย เป็นวันที่มวลมหาประชาชนร่วมมือกันกับพี่น้องทั้งประเทศในการวางแนวทางปฏิรูป ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ประชาชนทั่วทุกภาค และองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่ต้องการให้ประเทศไทยมีการปฏิรูป โดยจะทำให้สำเร็จและเห็นชัดเจนพร้อมที่จะนำไปปฏิบัติได้ทันทีที่มีรัฐบาลของประชาชน และเร่งรัดให้เขาปฏิรูปประเทศ
“ในขณะนี้มีข้อสงสัยโต้แย้งในการกำหนดหัวข้อเรื่องที่จะปฏิรูปโดยทันทีที่มี 5-6 เรื่อง ซึ่งพี่น้องประชาชนมีความกังวลใจว่า เราสนใจเฉพาะ 5-6 เรื่องนี้เท่านั้นหรือ เรื่องที่ดิน พลังงาน การศึกษา ไม่สนใจหรืออย่างไร ขอตอบตรงนี้ว่า เราตระหนักเรื่องที่จะต้องปฏิรูปในทุกเรื่องทุกด้าน เพียงแต่เรามีความจำกัดในเรื่องของระยะเวลาของรัฐบาลเฉพาะกิจ”
เลขาธิการ กปปส. กล่าวด้วยว่า เราจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปประเทศในเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนโดยใช้เวลา 1 ปี หรือ ปีครึ่ง ก่อนที่จะส่งมอบภารกิจให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ได้ปฏิรูปในส่วนที่เหลือต่อแล้วเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์ ซึ่งเชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาความเห็นที่แตกต่างลดลงไปได้
สำหรับปัญหาที่ยังมีอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อประชาชนแสดงความรับผิดชอบร่วมกันมากๆจะทำให้รัฐบาลในยุคต่อๆไปซึมซับความคิดเห็นของประชาชนและตอบสนองเร่งดำเนินการในทิศทางที่ประชาชนต้องการ ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยเป็นพลังดำเนินการเรื่องปฏิรูปประเทศต่อไป และวันนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีมากของการเริ่มต้น
ภายหลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวเปิดงานแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีการสาธิตการจัดเวทีประชุมสมัชชาให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ชม เพื่อเป็นตัวอย่างว่า หลังจากที่มีการระดมความเห็นครบตามหัวข้อที่กำหนดจะมีการจัดประชุมสมัชชาไปทั่วประเทศ โดยในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นจากหัวข้อ “แก้ความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเข้มแข็ง” โดยมีนพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เป็นประธานในการปฏิรูปหัวข้อดังกล่าว
จากนั้นมีการอภิปราย เริ่มต้นโดยนายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ กล่าวถึงการ “ปฏิรูปประเทศ ลดความยากจน” ว่า ความยากจนคือความแตกต่างเรื่องรายได้ สิทธิ และความยุติธรรม แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้ลดลงได้ เพื่อให้ความแตกต่างหมดไป แต่ไม่ใช่ว่าจะทำให้หายไปทั้งหมดคงไม่ได้ เนื่องจากความยากจนเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพอนามัย ความล้มเหลวจากการบริหารงานของรัฐบาล เรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้ชัดจากโครงการรับจำนำข้าว รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยข้อเสนอแรกที่เราต้องแก้ไขคือ1.เพิ่มอนาคตให้กับคนจนในเรื่องที่ดิน ดูว่าเราจะปฏิรูปที่ดินได้เรื่องไหม ดูข้อกฎหมายที่ดินว่า มีความบกพร่องตรงไหนแล้วแก้ไขใหม่ 2.กระจายเรื่องการศึกษา ให้คนมีการศึกษามีงานทำ ส่งเสริมการเกษตรให้มีความรู้และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องหาแนวทางว่าจะพัฒนาแรงงานในภาคเกษตรสู่สังคมอุตสาหกรรมได้อย่างไร
ขณะที่นายภิญโญ ทองชัย อดีตรองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงกรณีการแก้วิกฤติสังคม ด้วยชุมชนเข้มแข็งว่า ตอนนี้เราต้องมาดูก่อนว่า คำว่าชุมชมเข้มแข็งจะแก้ปัญหาความยากจนได้จริงหรือ และคำว่าชุมชนเข้มแข็งจะทำลายทุนสามานย์ได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมากระบวนการจัดการไทยมีปัญหามาโดยตลอดเพราะไม่มีคุณภาพ แล้วทำไมคนไทยถึงยากจนเพราะเรามีการเมืองสามานย์นำไปสู่ความยากจน คือ1.เรามีนักการเมืองสามานย์ 2.ทุนสามานย์ และสองสิ่งนี้ก็ไปสร้างให้เกิดระบบราชการสามานย์ จะเลือกส.ส.ก็ได้สามานย์แบบนี้เลยเป็นสาเหตุของประเทศคือ “โง่ จน เจ็บ” มาชั่วชีวิต ตราบใดที่เรายังไม่ทำลายระบบสามานย์เราจะก็โง่ จน เจ็บอยู่แบบนี้
“จากประสบการณ์การทำงานด้านชุมชนมา ชุมชนที่เข้มแข็งสามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ได้หมด หากชุมชมเข้มแข็งตั้งแต่ระดับตำบลจนสู่ระดับประเทศ”
ด้านนพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตกรรมการปฏิรูป และกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวถึง “พลังพลเมือง พลังฟื้นฟูชาติ” ว่า ประเทศไทยมีการตื่นรู้มาตั้งแต่ปี 2500 ที่ลุกขึ้นต่อต้านการทุจริตการเลือกตั้ง แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องทุนเสรีนิยมใหม่ มีความไม่เท่าเทียม มีความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้น มีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนเกือบ 20เท่า ซึ่งเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่นำมาสู่ปัญหาต่างๆในสังคม ดังนั้นการรวมพลังพลเมืองในวันนี้จะช่วยให้เกิดการปฏิรูปประเทศได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในเวทีปฏิรูปที่จัดขึ้นครั้งแรกของกลุ่มกปสส.นั้น มีกลุ่มนักวิชาการและประชาชนเข้าร่วม ในช่วงท้ายของการสาธิตการประชุมสมัชชามีประชาชนบางส่วนได้แสดงความคิดเห็น โดยมีข้อเสนอในเรื่องของการปฏิรูปพลังงาน โดยเฉพาะในเรื่องการศึกษา โดยเขาเห็นว่า หากทุกคนมีการศึกษาและได้รับข้อมูลอย่างเข้าใจจะช่วยให้ประชาชนสามารถแยกแยะและเข้าใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
อีกทั้ง ที่ผ่านมาระบบการศึกษามักอ้างอิงกับนักการเมืองตลอด กล่าวคือเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลครูก็เปลี่ยนทำให้ระบบการศึกษาของไทยไม่ก้าวหน้า ดังนั้นนี่คือเรื่องจำเป็นเช่นเดียวกันที่ต้องเร่งปฏิรูป
ทำไมต้องปฏิรูปการถือครองที่ดินให้เป็นธรรมและยั่งยืน