‘สมพร’ แนะจับตาอีก 4 เดือน ราคาข้าวไทยในตลาดโลกตกแน่!
‘รศ.สมพร อิศวิลานนท์’ ชี้สถานการณ์ข้าวส่งออกไม่ชัดเจน เหตุปริมาณยังไม่ไหลสู่ตลาดต่างประเทศ เชื่ออีก 4 เดือน ราคาจะตกต่ำแน่ พร้อมยันเป็นเรื่องยาก รัฐบาลหาเงินคืนทัน 31 พ.ค. 57 ยกเว้นกดราคาขายให้ต่ำกว่าเดิม แต่ชาติจะเสียหาย
จากกรณีนายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รมช.พณ.) ออกมาเตือนผู้ส่งออกข้าวและนักวิชาการที่ให้ข่าวในช่วงระหว่างรัฐบาลประมูลข้าวในสต๊อกว่า ราคาข้าวเปลือกอาจลดลง ซึ่งมองว่าเป็นพฤติกรรมการทุบราคาข้าวนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัมภาษณ์รศ.สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ ต่อสถานการณ์ราคาข้าวไทยในปัจจุบัน โดยระบุว่าร าคาข้าวเปลือกของตลาดในประเทศลดลงมาเหลือเพียง 7,000-8,000 บาท/ตัน เมื่อเทียบเป็นข้าว 15% แต่หากเป็นข้าวต่ำกว่า 15% เชื่อว่าราคาจะลดลงเหลือเพียง 6,000 บาท/ตัน
ส่วนราคาข้าวไทยในตลาดส่งออกนั้น รศ.สมพร กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลระบายข้าวออกมาเยอะพอสมควร ทำให้กดดันราคาข้าวในตลาดโลกและของประเทศอื่น ๆ ให้ลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ข้าวตอนนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะปริมาณข้าวที่ต้องการระบายนั้นยังไม่ไหลเข้าสู่ตลาดต่างประเทศทันที แต่ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า ราคาข้าวไทยในตลาดต่างประเทศจะต้องลดลงแน่นอน เพราะข้าวนาปรังที่เก็บเกี่ยวใหม่ไหลเข้าสู่ตลาดข้าวเอกชนแล้ว
“เมื่อข้าวไหลเข้าตลาดเอกชนจะมีราคาประมาณ 7,000-8,000 บาท/ตัน หรือประมาณ 420 ดอลล่าร์สหรัฐ/ตัน และหากข้าวที่ระบายออกมาเป็นข้าวเก่าก็จะถูกกดราคาให้ต่ำลงอีก ซึ่งผมคิดว่า น่าจะอยู่ที่ 400 ดอลล่าร์สหรัฐ/ตัน แต่สำหรับข้าว 25% ก็จะมีราคาลดลงกว่านี้อีก”
นักวิชาการอาวุโส ยังกล่าวถึงกรณีนายยรรยงจ้องเอาผิดผู้ส่งออกข้าวกับนักวิชาการที่ให้ข่าวราคาข้าวอาจลดลงว่า นายยรรยงคิดเพียงข้าวหอมมะลิอย่างเดียว ซึ่งเมื่อขายจริงต้องมีทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวชนิดอื่น แต่เมื่อรายงานกลับระบุจำนวนการระบายข้าวแล้วจึงเฉลี่ยออกมาเป็นข้าวหอมมะลิราคา 20,000 บาท/ตัน ซึ่งจริง ๆ แล้วข้าวหอมมะลิมีราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อนำมาเฉลี่ยกับข้าว 5% จึงไม่สะท้อนราคา
“ตลาดข้าวส่งออกจริง ๆ เป็นตลาด 'ลวง' ซึ่งรัฐได้ทำให้กลไกตลาดเสียหาย จึงไม่มีราคาที่สะท้อนตลาดจริง ๆ เพราะราคาที่แสดงในเว็บไซต์นั้นเป็นรายงานไม่จริง”
ทั้งนี้ รศ.สมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับความกังวลรัฐบาลจะระบายข้าวเพื่อหาเงินมาใช้คืนงบกลาง 20,000 ล้านบาท ทันวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 หรือไม่นั้น ซึ่งหากหาเงินมาใช้คืนได้ถือเป็นความโชคดีของรัฐบาล แต่ผมคิดว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการระบายข้าวจนเกือบทำให้ตลาดอิ่มตัวแล้ว
ฉะนั้นหากจะให้ได้ตามเป้าหมายรัฐบาลต้องระบายข้าวประมาณ 1 ล้านตัน หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ยกเว้นต้องทำให้ราคาข้าวลดลงมาอีกจึงจะขายได้ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับโครงการก็จะขยายตัวและรุนแรงอีก
“ปัจจุบันรัฐบาลระบายข้าวสาร 5% ที่ราคา 11,000-12,000 บาท/ตัน เพราะฉะนั้นหากจะระบายข้าวให้ได้มากกว่านี้จะต้องลดราคาให้ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน ซึ่งรัฐบาลซื้อข้าวเก็บไว้มีต้นทุนประมาณ 24,000 บาท/ตัน จึงขาดทุน 14,000 บาท/ตัน ขาดทุนมากกว่าราคาที่จะขายได้เป็นเท่าตัว ซึ่งไม่มีรัฐบาลประเทศใดทำกัน เพราะสร้างความเสียหายอย่างชัดเจน” นักวิชาการอาวุโส กล่าว
ขณะที่เว็บไซค์ http://www.oryza.com/ รายงานโดยอ้าง องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ได้ประมาณการการค้าข้าวโลกปี 2557 อยู่ที่ 38.3 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 1 แสนตัน คิดเป็น 3% จาก 37.3 ล้านตัน เมื่อ 2556
ทั้งนี้ เอฟเอโอ ยังระบุถึงการส่งออกข้าวไทย โดยคาดว่าจะมีการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากนโยบายรับจำนำข้าว ที่ทำให้มีสต๊อกรอขายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
สำหรับผู้ส่งออกข้าวอย่าง ปากีสถาน สหรัฐ และเวียดนาม ก็คาดว่าจะมีการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น ในปีนี้ ขณะที่อินเดียได้รับการคาดหมายจะขึ้นมาเป็นผู้นำการส่งออกข้าวในปีนี้ด้วยเช่นกัน
ภาพประกอบ:เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์