อดีตปลัดพาณิชย์ เชื่อรบ.คืนเงินไม่ทัน 31 พ.ค. ชี้ใช้เวลานานกว่าจ่ายหนี้ชาวนาครบ
อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ยันรัฐบาลไม่มีทางขายข้าวหาเงิน 2 หมื่นล้านมาคืนได้ทันตามเงื่อนไขกกต.ระบุถึงรบ.จ่ายคืนช้าก็ไม่เกิดการฟ้องร้อง ลั่นถ้าวันนี้ยังเป็นปลัดอยู่คงลาออกไปแล้ว
หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลาง 20,000 หมื่นล้านบาท มาจ่ายหนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวนา ซึ่งเป็นเงินยืมทดลองราชการ ที่ทำสัญญาระหว่าง กรมการค้าต่างประเทศ กับ กระทรวงการคลัง พร้อมทั้งกำหนดต้องนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายข้าวมาคืนให้ครบทั้ง 20,000 ล้าน ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 นั้น
อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ท่านหนึ่ง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ผู้รับผิดชอบในการลงนาม หากฝ่ายใดเป็นผู้ขอกู้ก็ต้องเป็นคนในเจ้ากระทรวงนั้นเซ็นสัญญา หากเป็นกระทรวงพาณิชย์ก็คือปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เซ็นสัญญา หรือหากเป็นกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้ขอยืมก็ต้องเป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
สำหรับภายใต้กรอบสัญญาที่กกต.อนุมัตินั้นมีเงื่อนไขว่าจะต้องชำระคืนทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 นั้น อดีตปลัดพาณิชย์ กล่าวว่า ทางรัฐบาลไม่น่าจะขายข้าวและหาเงินมาใช้คืนได้ตามเวลาที่กกต.กำหนด เพราะการขายข้าวในระยะเวลา 3 เดือนให้ได้เงินมากขนาดนั้นเป็นเรื่องที่ยาก
เมื่อถามว่า หากไม่คืนภายในเวลาที่กำหนดจะเกิดการฟ้องร้องระหว่างกระทรวงการคลังกับกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้จะคืนเงินไม่ทัน เชื่อว่า ก็ไม่มีการฟ้องร้องอย่างแน่นอน เพราะจากที่เคยรับราชการมานานจนถึงอายุ 60 ปี ไม่เคยมีการฟ้องร้องระหว่างหน่วยงานราชการ อย่างมากก็แค่มีหนังสือทวงถามและให้มาชี้แจ้งว่า มีสาเหตุอะไรถึงยังไม่สามารถคืนเงินได้
ส่วนระยะเวลาในการแก้ปัญหาในการจ่ายหนี้ให้ชาวนานั้น อดีตปลัดพาณิชย์ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะมีปัญหาหลายอย่าง
“ถ้าตอนนี้ผมเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผมคงหาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะแก้อย่างไร เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่มีปัญหามหาศาล ถ้าอยู่ในยุคนี้ผมคงลาออกไปแล้ว”