คำแถลงการณ์ “กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์” การสิ้นสุดของรบ.รักษาการ
"กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์เห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของรักษาการณ์นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สิ้นสุดลงปราศจากฐานที่จะอ้างความชอบธรรมใดๆตามรัฐธรรมนูญได้อีกต่อไป"
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุมอาคารมาลัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ นำโดยนายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดี คณะนิติศาสตร์ นิด้า นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม นิด้า นายคมสัน โพธิ์คงอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช แถลงเรื่อง “การสิ้นสุดลงของรัฐบาลรักษาการณ์ของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
โดยนายพิชัยอ่านแถลงการณ์ว่า ความแตกแยกขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้กำลังขยับเข้าสู่ภาวะสงคราม ซึ่งเป็นภาวะที่ฝ่ายหนึ่งใช้กองกำลังติดอาวุธซุ่มโจมตี และทำลายอีกฝ่ายหนึ่งที่ใช้การชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ ถือหลักสันติอหิงสาเป็นแนวทางในการต่อสู้ ภาวะการณ์เช่นนี้ย่อมนำไปสู่ความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกายของผู้บริสุทธ์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กได้ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของผู้กระหายอำนาจแม้จะแลกด้วยชีวิตเลือดเนื้อของผู้บริสุทธ์ และยังไม่อาจคาดหมายได้ว่าจะมีผู้บริสุทธ์อีกกี่รายที่จะต้องพลีชีวิตเพื่อให้รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีที่ไม่อาจกล่าวอ้างหลักประชาธิปไตยได้ ได้เสวยอำนาจอีกต่อไป
กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์เห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของรักษาการณ์นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สิ้นสุดลงปราศจากฐานที่จะอ้างความชอบธรรมใดๆตามรัฐธรรมนูญได้อีกต่อไป อันสืบเนื่องมาจาก 1.ความล้มเหลวของการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่อาจนำไปสู่การเปิดสภาผู้แทนราษฎรได้ตามมาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังมีปัญหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะขัดกับมาตรา 108 ของรัฐธรรมนูญ และปัญหาอื่นๆอีกหลายประการ
“ฉันทานุมัติของประชาชนจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ส่งผลให้จัดตั้งรัฐบาลนั้น ย่อมสิ้นสุดลงเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร และเพียงทำหน้าที่รักษาการณ์เพื่อรอสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ในการเลือกผู้บริหารชุดใหม่ต่อไป เมื่อเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่อาจบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ การดำรงอยู่ของรัฐบาลจึงมิอาจดำรงอยู่ได้อีกต่อไป
2.ความล้มเหลวของรัฐบาล รัฐบาลรักษาการณ์ภายใต้การนำของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในภาวะล้มเหลวในการบริหารโดยสิ้นเชิง กล่าวคือ 2.1ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน 2.2 ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอันสืบเนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทยจนนำไปสู่การฆ่าตัวตาย และการเสียชีวิตจำนวนมากของชาวนาผู้ประสบเคราะห์กรรมจากนโยบายดังกล่าว ความล้มเหลวดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
“2.3ความล้มเหลวในการดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน โดยเฉพาะจากกองกำลังที่ลอบซุ่มโจมตีด้วยอาวุธสงครามต่อผู้บริสุทธ์ ความเสียหายต่อผู้บริสุทธ์คนแล้วคนเล่านอกจากอำนาจฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถปกป้องคุ้มครองได้แล้ว การกระทำทั้งหลายเหล่านี้น่าเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับฝ่ายรัฐบาลโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
3.องคาพยพของรัฐบาลกระทำการปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐบาลไม่อาจอาศัยความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ประกอบกับรัฐบาลไม่สามารถใช้อำนาจของฝ่ายบริหารในการสั่งการใดๆได้ ตลอดทั้งศาลได้มีคำสั่งห้ามมิให้ ศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) ใช้อำนาจตามที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้อีกต่อไป องคาพยพของรัฐบาลจึงหันไปใช้กองกำลังติดอาวุธที่เคยใช้ได้ผลเมื่อพฤษภาคม 2553 เพื่อข่มขู่คุกคามผู้ชุมนุมโดยสงบปราศอาวุธถือหลักสันติอหิงสา จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้มตายของผู้บริสุทธ์คนแล้วคนเล่า ไม่เว้นแม้แต่เด็กผู้บริสุทธ์ที่ไม่เดียงสา
ล่าสุดมีการเดินพลสวนสนามของกองกำลังอาสาสมัคร และต่อมามีการรับสมัครอาสาสมัครโดยกล่าวอ้างว่าเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงไปสู่การแบ่งแยกประเทศเป็นประเทศอีสานล้านนานั้น การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นพฤติกรรมที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญจนไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป