ป.ป.ช.ขู่ฟัน ม. 157 "รมต.รัฐบาลยิ่งลักษณ์" สั่ง "กวป." ปิดล้อมสนง.
"ป.ป.ช." ซัด "รมต.-คนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์"อยู่เบื้องหลังคำสั่งม็อบกวป.ปิดล้อม"สนง." องค์กรอิสระ ยันมีหลักฐานคลิปปราศรัย "โคราช" 23 ก.พ. เตรียมสอบขยายผล งัด ม.157 เล่นงาน!
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) ปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช.และปักหลักชุมนุมค้างคืน พร้อมทั้งตั้งเวทีบนถนนบริเวณด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 – 1 มีนาคม 2557 และได้มีการกระทำที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมายชัดเจน เช่น กรณีใช้โซ่ล่ามและล็อกกุญแจประตู เตรียมเทปูนกีดขวางประตู หรือปีนรั้วเข้ามาภายในสำนักงานถือว่าเป็นความผิดฐานบุกรุก ซึ่งเป็นเรื่องการข่มขู่ไม่ให้สำนักงาน ป.ป.ช.ทำงาน ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ก็มีการเจรจากับทาง ผู้ชุมนุมอยู่ตลอดเวลา โดยระบุว่าทางสำนักงาน ป.ป.ช.กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า กำลังพิจารณาว่าการปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นการทำตามคำสั่งของรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีหลักฐานเป็นคลิปการปราศรัยที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 ที่มีรัฐมนตรีและคนในรัฐบาลสั่งการในลักษณะให้มีการเคลื่อนไหวกดดันองค์กรอิสระ และศาล ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้สั่งการ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/1 ดังนั้น หากมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องถึงผู้ใดก็จะสอบขยายผลต่อไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ยังระบุด้วยว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เคยแจ้งความไปแล้วจนเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ศาลได้มีการออกหมายจับ 5 แกนนำ ที่บุกรุกเข้ามาในบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ยุติการไต่สวนคดีทุจริตรับจำนำข้าว โดยการปีนรั้วด้านหน้าของสำนักงาน ป.ป.ช. และมีการใช้ค้อนทุบทำลายกุญแจและโซ่ที่ล็อกประตูรั้วด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ได้แก่
1. นายศรรักษ์ มาลัยทองหรือนายมาลัยรักษ์ ทองชัย
2. นายผัน โพธิ์ทอง
3. นายวรัญชัย โชคชนะ
4. นายกองพล นาวา
5. นายชาญ ไชยยะ
โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้ชุมนุมของกลุ่ม กวป. และ นปช. นนทบุรี ที่ปิดล้อมมาปิดล้อม สำนักงาน ป.ป.ช. ให้หญิงประมาณ 5 คน ปีนรั้วเข้าไปในเขตสำนักงาน ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ 2 คน คือ นางเอสีห์ เอี่ยมภัทรนนท์ และ นางเพ็ญศรี เจริญเณรรักษา พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ลาดโตนด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งต่อมาแกนนำมาประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
ป.ป.ช. ยังระบุด้วยว่า จากการประชุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เวทีที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่อ นปช. ลั่นกลองรบ ซึ่งมีแกนนำคือ นายรัตน์ ภู่กลาง จากจังหวัดตรัง ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวพาดพิงถึงการทำงานและข่มขู่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เข้าไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษแก่บุคคลดังกล่าวกับกองบังคับการปราบปรามแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับแกนนำ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 139 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันไม่ชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ย่อมมีความผิดและถูกลงโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินแปดพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ป.ป.ช. ยังระบุด้วยว่า กรณีนี้ สืบเนื่องจากตามที่ประธานวุฒิสภา ให้ส่งคำร้องขอให้วุฒิสภาถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายและกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเหตุควรสงสัยว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามอำนาจหน้าที่นั้น และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะไต่สวนได้มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ให้มีหนังสือเรียกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหามาพบและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบตามระเบียบไต่สวนการทุจริตเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น. ปรากฏว่า กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) นำโดย นายชาญ ไชยยะ รองประธาน กวป. นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง เลขาธิการ กวป. นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป. พร้อมมวลชนประมาณ 200 คน รวมตัวกันปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช. โดยใช้โซ่คล้องพร้อมล็อกกุญแจห้ามรถและเจ้าหน้าที่เข้า-ออกเด็ดขาด มีการเตรียมการเทปูนกีดขวางประตู และปีนรั้วเข้ามาภายในสำนักงาน ป.ป.ช. อันถือว่าเป็นความผิดฐานบุกรุก และปิดถนนการจราจรฝั่งด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ช่องทางขาออกมุ่งหน้าถนนติวานนท์ พร้อมตั้งเวทีปราศรัยโดยมีการปักหลักค้างคืน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2557 เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. ยุติการไต่สวนคดีทุจริตการรับจำนำข้าวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และปราศรัยว่าการพิจารณาคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีสองมาตรฐานเมื่อเปรียบเทียบกับการไต่สวนโครงการระบายข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
เบื้องต้น ป.ป.ช. ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ รักษาการนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทนายความมารับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับโครงการ รับจำนำข้าว และยินดีให้ความร่วมมือโดย สำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหากับทางทนายความเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น. ณ เทศบาลนครนนทบุรี และให้นำข้อกล่าวหาไปมอบให้รักษาการนายกรัฐมนตรี ต่อไป ซึ่งในคดีการถอดถอนและคดีอาญาดังกล่าวมีขั้นตอนชัดเจน และให้สิทธิขั้นพื้นฐานที่จะให้ผู้ถูกกล่าวหาที่มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 14 มีนาคม 2557 และในการชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าวก็ทำได้ทั้งการเดินทางมาด้วยตัวเองก็จะเป็นประโยชน์ในการแถลงชี้แจงเพิ่มเติมได้อีก หรือจะส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรก็สามารถทำได้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังจากยื่นพยานหลักฐานมาเรียบร้อยแล้ว สำนักงาน ป.ป.ช. จะพิจารณาว่าจะไต่สวนพยานเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ เพื่อลงมติชี้มูลต่อไป ขอเรียนว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยมีอคติในการทำงาน และไม่มีธงในการทำงานแต่อย่างใด