‘ดร.สมคิด’ ค้านเชิญเลขาฯ ยูเอ็นเป็นคนกลางยุติขัดแย้งไทย
‘ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ ค้านแนวคิดเชิญบัน คี มุน เลขาฯ ยูเอ็นเป็นคนกลางเจรจายุติขัดแย้งไทย ระบุสถานการณ์ไม่ถึงขั้นซีเรีย-โซมาเลีย หวั่นต่างชาติมองเป็นรัฐล้มเหลวทางการเมือง
ภายหลังนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) มีแนวคิดจะเชิญนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) มาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งทางการเมืองในไทยนั้น เนื่องจากเห็นว่าไทยไม่มีคนที่เป็นกลางอย่างแท้จริงได้
ล่าสุด ในงานวันครบรอบ 45 ปี วันพระราชทานนาม ณ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดซึ่งชะงักชะงัน
"ผมมองเมืองไทยตอนนี้อยู่บนทางแพร่ง หากเรานิ่งปล่อยต่อไป เราจะเห็นเศรษฐกิจของเราค่อย ๆ หลอมละลาย ความเดือดร้อนเต็มไปหมด หากเราเดินแยกซ้ายไปสู่ความรุนแรง ตอนนั้นไทยจะกลายเป็นประเทศล้มละลายด้านรัฐ"
แต่หากเบี่ยงไปอีกทาง ดร.สมคิด กล่าวว่า มีความพยายามหาทางออกยุติ รู้จักเสียสละกันบ้าง หารัฐบาลมาคั่นตรงกลางผลักดันให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และปฏิรูปพอสมควร ตนเชื่อว่าฐานการเมืองไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ คือให้คนไทยนั้นมีความสมานฉันท์มากกว่านี้
ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า ส่วนสิ่งที่เป็นข่าวในวันนี้ว่าไทยไปเชิญนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ มาเป็นกรรมการห้ามมวย เกิดมาจนอายุ 61 ปี อายที่เกิดเป็นคนไทย เพราะตั้งแต่เกิดมามีความภูมิใจว่าเราไม่เคยเป็นขี้ข้าใคร เรามีคนเก่งของเราคุยกันรู้เรื่อง แต่ทำไมเดี๋ยวนี้คุยกันไม่ได้ เเล้วเลขาธิการยูเอ็นเป็นใคร
"เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทันทีที่มีคนกลางจากต่างประเทศเข้ามา หมายความว่า ไทยล้มเหลวทางการเมือง ประเทศนั้นในภาพลักษณ์ของโลกจะกลายเป็นประเทศที่แก้ปัญหาตนเองไม่ได้ เอาอำนาจไปให้คนภายนอก สิ่งเหล่านี้ผลกระทบจะรุนแรงมากโดยที่คุณนึกไม่ถึง และต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่เราจะสร้างขึ้นมาใหม่ในฐานะประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี
คุณดูประเทศอย่างซีเรีย โซมาเลีย หรือประเทศที่กำลังรบกันขณะนี้ เราไม่ถึงขนาดนั้นเลย ผมเรียกร้องให้คิดใหม่ และพยายามให้ยุติให้ได้โดยเร็วด้วยคนไทยกันเอง” ดร.สมคิด ทิ้งท้าย .