‘วิชัย’เปิดแผลจำนำข้าวซื้อแพงขายถูก มีเงินส่วนต่างทุก 1 ล้านตันเข้ากระเป๋าใคร 1 หมื่นล.

นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  คำนวณให้เสร็จรัฐขายข้าวจีทูจี 10-12 ล้านตัน ชี้ต่ำกว่าต้นทุน ในราคา 10 บาท/กก. แถมเงินส่วนต่างไม่เข้ารัฐ ทุก 1 ล้านตัน บริษัทพรรคพวกโกยกำไร 10 บาท/กก. เท่ากับ 1 หมื่นล้าน ยิ่งขายข้าว 12 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 1.2 แสนล้านบาท ถามชัด เข้ากระเป๋าใคร

นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวตอนหนึ่งในเวที Restart ประเทศไทยครั้งที่ 2 เรื่อง “จากทุกข์ของชาวนาไทย...สู่การปฏิรูปประเทศ” ณ ห้องประชุมกิ่งเพชร ชั้น 3 โรงแรมเอเชีย เมื่อเร็วๆ นี้  ถึงโครงการจำนำข้าว ที่มีการปกปิดข้อมูลทั้งจำนวน ราคาขาย สต๊อกข้าว ซึ่งจากการคำนวณราคาที่รัฐบาลประกาศออกมา พบว่า ข้าวรัฐบาล 2 ปี หรือ 4 ฤดูกาลผลิต ได้มีการรับซื้อไปทั้งหมดเป็นข้าวสาร 26.75 ล้านตัน รวมใช้เงินไปกว่า 7.8 แสนล้านบาท ซึ่งเมื่อหารออกมาเป็นกิโลกรัมจะตกอยู่ที่ 29.16 บาท นี่คือต้นทุนข้าวรับจำนำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“จากตัวเลขของนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ระบุเหลือสต๊อกข้าว 14 ล้านตัน แปลว่า รัฐบาลขายข้าวออกไป 13 ล้านตัน ได้เงินมา 1.3 แสนล้านบาท ตกกิโลกรัมละ 10 บาท ขณะที่ต้นทุนข้าวอยู่ที่เกือบ 30 บาท”

นายวิชัย กล่าวถึงการขายข้าวแบบจีทูจีให้กับพรรคพวกนั้น รัฐบาลผูกขาดการซื้อข้าวแพง เพื่อกันไม่ให้พ่อค้าเข้ามาแย่งสต๊อกข้าว เนื่องจากปกติรัฐบาลจะสู้เอกชนไม่ได้ ดังนั้นมีวิธีเดียว คือ ซื้อชนิดที่ไม่ให้เอกชนสู้ได้ ให้ราคาเกิน 50%  กระทั่งสต๊อกข้าวเป็นของรัฐบาล

“ภาคเอกชนขายข้าวในต่างประเทศกิโลกรัมละ 20 บาท  แต่รัฐบาลขายข้าวแบบจีทูจี 10-12 ล้านตัน ในราคา 10 บาท ให้พรรคพวกตัวเอง จากนั้นเอกชนที่เป็นพรรคพวกรัฐบาลก็นำมาขายต่อเอกชนในประเทศ ในราคาไม่ใช่ 10 บาท ซึ่งส่วนต่างเงินจำนวนนี้ไม่ไปเข้ารัฐบาล แต่เข้ากระเป๋าใครสักคน" นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าว และคำนวณว่า ทุก 1 ล้านตัน จะมีกำไรกิโลกรัมละ 10 บาท เท่ากับ 1 หมื่นล้านบาท และหากขายข้าวไป 12 ล้านตัน ก็คิดเป็นเงิน 1.2 แสนล้านบาท ถามว่า ส่วนต่างนี้เข้ากระเป๋าใคร และที่หยิบยกขึ้นมานี้ ก็เพื่อให้เข้าใจทำไมรัฐบาลซื้อข้าวมาในราคาสูง แต่ขายในราคาต่ำ มีอำนาจผูกขาดซื้อและขาย ในที่สุดเงินหมดไม่มีทางทำโครงการต่อ

นายวิชัย  กล่าวถึงการไปซื้อข้าวอีกว่า รัฐบาลไม่เคยขายข้าวตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ทั้งๆที่การนำข้าวเข้าโกดังหลวงจะมีเซอร์เวเยอร์ ตรวจคุณภาพอย่างดี  แต่โรงสีย่อมรู้ยอมจ่าย 7 บาทต่อกระสอบ เพื่อให้ข้าวอะไรก็ได้เข้าโกดัง ขณะที่ตอนขายออก กลับมีเพียงภาคเอกชนเพียง 2 – 3 รายเท่านั้นที่รู้ โกดังนี้มีข้าวอะไร คุณลักษณะอย่างไร

"หากภาคเอกชนที่ไม่มีพรรคพวกจะไม่กล้าเข้าไปซื้อข้าวจากรัฐบาล นี่คือทางตันที่รัฐบาลร่วมมือกับพรรคพวกตัวเอง และกระทรวงพาณิชย์ยังมาตั้งกติกาตอนขายข้าวออก ไม่ขายตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ แต่จะขายตามสภาพ ทั้งหมดดูย้อนหลังเชื่อว่ามีการวางแผน เพื่อหาเงิน"

 นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  กล่าวถึงการปฏิรูปเรื่องข้าวอย่าทำผิดอย่างที่ผ่านมา เพราะทำตามรัฐธรรมนูญได้เขียนไว้ชัดเจนว่า การค้าขายให้อาศัยกลไกตลาดเป็นหลัก ไม่ให้รัฐบาลแข่งกับเอกชน ฉะนั้นควรกลับไปที่เดิมเรื่องค้าเรื่องขายให้ไกตลาดทำงานเอง ห้ามผูกขาดทั้งรัฐและเอกชน

ขณะที่การช่วยเหลือเกษตรกรนั้น นายวิชัย กล่าวด้วยว่า ต้องทำเรื่องชลประทานให้น้ำไหลเข้าและออกตามธรรมชาติ โดยเกษตรกรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องการปั๊มน้ำ จากนั้นดูแลเรื่องดิน วิเคราะห์ดิน เพื่อประหยัดในการใส่ปุ๋ย รวมถึงการมีพันธุ์ข้าวที่ดี ตรงตามความต้องการตลาด ขณะเดียวกันการพัฒนาพันธุ์ข้าวต้องสามารถให้พ่อค้าแยกแยะได้ด้วยตาเปล่า เช่นเดียวกับทุเรียนหมอนทอง ก้านยาว ได้ด้วย