“จุรินทร์” ค้านคืนชีพ 30 บาทรักษาโรค เลขา สปสช.สวนทำเงินเข้ารัฐ 2 พันล้าน
“จุรินทร์” ติงพรรคเพื่อไทยล้าหลังกลับไปใช้นโยบาย 30 บาท คุยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วประเทศดีกว่า ด้าน “เลขาฯ สปสช.” เห็นด้วยเพื่อไทย ชี้ทำให้มีเงินเพิ่ม 2 พันล้าน ช่วยค่าใช้จ่ายหน่วยบริการสาธารณสุขปีละ 2%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่างานด้านสาธารณสุขที่ดำเนินอยู่ขณะนี้หลายเรื่องก็ไม่ขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ เช่น นโยบายโรงพยาบาล 3 ดี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่ดีและเป็นการเพิ่มศักยภาพการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ยังมีนโยบายเพิ่มไอโอดีนที่เป็นสารช่วยเสริมการพัฒนาการทางสมอง และเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสานต่อในเรื่องเหล่านี้
ส่วนร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างแพทย์และผู้ป่วยเพื่อไม่เกิดการฟ้องร้อง โดยยึดหลักการผู้เสียหายต้องได้รับการชดเชยที่เหมาะสมและต้องช่วยแพทย์ไม่ให้ถูกฟ้องร้อง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่เสียดายมีเพียงเรื่องเดียวคือนโยบายบัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรีทั่วประเทศ 48 ล้านคน ที่ได้ดำเนินไว้ โดยพรรคเพื่อไทยประกาศแล้วว่าหากเป็นรัฐบาลจะนำนโยบาย 30 บาทกลับมา ซึ่งตนมองว่าเป็นจุดที่ผลักดันจนข้ามพ้นมาแล้ว เพื่อช่วยให้คนไทยได้รับบริการรักษาพยาบาลทั่วถึง แต่การนำนโยบาย 30 กลับมา จะเป็นการย้อนกลับไปยังจุดเดิม ส่วนที่เกรงว่าการทำนโยบายกลับไปกลับมา อาจทำให้ประชาชนสับสนในนโยบายการรักษาพยาบาลนั้น เห็นว่าเป็นหน้าที่รัฐบาลชุดใหม่ที่จะชี้แจงกับประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
“ส่วนตัวไม่คิดว่าการจัดเก็บ 30 บาท จะลดการใช้บริการของประชาชนลงได้ เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการเก็บ 30 บาท แต่อัตราการใช้บริการของประชาชนก็ยังกระโดดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่หากเป็นการจัดเก็บเพื่อหางบประมาณเพิ่มนั้น เห็นว่าควรที่จะหาเพิ่มจากทางอื่นมากกว่า”
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงว่าการนำ 30 บาทกลับมานั้น จะเป็นนโยบายแรกที่จะดำเนินการทันที ตนมองว่าเป็นนโยบายที่ดี และ สปสช.มีความพร้อมในทุกๆด้านที่จะดำเนินการ ทั้งในด้านระบบฐานข้อมูล ระบบไอที และอื่นๆเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ต้องรอการประกาศนโยบายชัดเจนก่อน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องแก้ไขกฎหมายสามารถออกเป็นมติบอร์ดได้เลย
นพ.วินัย กล่าวต่อว่า แต่ก่อนที่รัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องนี้ สิ่งที่ต้องทำคือชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจว่า การเก็บเงิน 30 บาจะดีกว่าโครงการเดิมอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องเร่งพัฒนาระบบการให้บริการสาธารณสุข โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนบุคคลกรทางการแพทย์ ให้เร็วที่สุด เพื่อทำให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดี
“การจัดเก็บ 30 บาทให้ประชาชนเกิดการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลของตน ทำให้รู้สึกมีคุณค่าไม่ได้เป็นผู้ป่วยอนาถา”
เลขาธิการ สปสช.ยังกล่าวว่า ในอดีตการจัดเก็บ 30 บาททำให้สามารถจัดเก็บเงินสมทบได้กว่าสองพันล้านบาทต่อปี ขณะที่งบประมาณในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอยู่ที่กว่าแสนล้านบาทต่อปี ดังนั้นเงินที่จัดเก็บเพิ่มได้นี้สามารถนำมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการสาธารณสุขได้ถึง 2 % ในแต่ละปี .
ที่มาภาพ : http://www.mat.or.th/news_detail.php?section=13&news_id=3318