สภาทนายฯ พร้อมฟ้องคดีจำนำข้าวแทนชาวนาทั่วประเทศ
สภาทนายความออกแถลงการณ์ ระบุพร้อมฟ้องคดีจำนำข้าวแทนชาวนาทั่วประเทศ แนะหากคดีถึงศาลให้ขอเดินเผชิญสืบทรัพย์ เพื่อดูว่าข้าวยังอยู่ครบหรือไม่
เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2557 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การดำเนินคดีให้ความช่วยเหลือแก่ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีเนื้อหาว่า
ตามที่สภาทนายความได้มีคำสั่งที่ 8/2557 ลงวันที่ 23 ม.ค.2557 และคำสั่งที่ 22/2557 ลงวันที่ 10 ก.พ.2557 ให้ทนายความอาสาโดยเฉพาะประธานสภาทนายความจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายประจำจังหวัด ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าทำสัญญาการรับจำนำข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) รวมทั้งโรงสีที่อยู่ในโครงการและตัวแทนของหน่วยงานของรัฐในการรับมอบข้าวจากชาวนา ซึ่งในวันนี้นายกสภาทนาย และกรรมการได้เข้าเยี่ยมชาวนาที่มาชุมนุมหน้ากระทรวงพาณิชย์ พบว่าชาวนาทุกภาคส่วนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากการไม่เข้าใจเรื่องข้อกฎหมาย และกลไกการทำสัญญาจึงถูกเอารัดเอาเปรียบในการใช้วิธีการไม่ลงนามในสัญญารับจำนำบ้าง อ้างว่าไม่ได้รับสินค้าคือข้าวเปลือกบ้าง และโดยเฉพาะการไม่ชำระหนี้ที่ครบกำหนด ล้วนแล้วแต่เป็นการอ้างและถ่วงเวลาให้มีเงื่อนไขและเงื่อนเวลาในการที่จะไม่ชำระเงินให้แก่ชาวนาซึ่งต่อสู้ที่ไม่เป็นธรรมต่อชาวนาอย่างยิ่ง
สภาทนายความเห็นว่าเพื่อให้การดำเนินคดีกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน บุคคล และคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน จึงขอให้ทนายความอาสา พนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะประธานสภาทนายความจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายประจำจังหวัด กรรมการภาค และกรรมการบริหารสภาทนายความ ได้ช่วยกันดูแลให้มีการดำเนินคดีให้เป็นไปตามนโยบายของสภาทนายความ กล่าวคือ
1. ให้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ประมวลผล และตรวจสอบพยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในแต่ละชุดของชาวนาผู้เสียหาย ให้ส่งรูปแบบคำฟ้องในทำนองหรือในกรอบของคำฟ้องที่ได้ส่งเป็นตัวอย่างให้พร้อมกับคำสั่งของสภาทนายความ ที่ 22/2557 ลงวันที่ 10 ก.พ.2557 โดยให้ปรับข้อเท็จจริงให้เข้ากับกรณีของเหตุการณ์ในแต่ละกลุ่มของชาวนา
2. เมื่อยื่นคำฟ้องต่อศาลให้ทนายความผู้รับผิดชอบในคดียื่นคำร้องขอใช้วิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เพื่อขอให้ศาลเดินเผชิญสืบทรัพย์ที่จำนำหรืออยู่ในความครอบครองของบุคคล คณะบุคคล หรือหน่วยงานของรัฐ หรือตัวแทนว่ายังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อให้ชาวนาได้มีความอุ่นใจว่าการส่งมอบทรัพย์คือข้าวเปลือกนั้นได้เป็นไปโดยชอบและมีข้าวเปลือกอยู่จริง
3. ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ในทุกระดับทั้งในระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นวิทยุท้องถิ่น โทรทัศน์ประเภทเคเบิลทีวี หรือสื่อสารมวลชนใดก็ตาม ขอให้ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนเดินทางมาขอรับการช่วยเหลือโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับสภาทนายความในการดำเนินคดีกับผู้ที่ผิดสัญญากับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าวข้างต้น
ขอให้ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนและขอให้ทนายความอาสาของสภาทนายความในทุกเขตศาลจังหวัดได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นให้เป็นเอกภาพเดียวกัน.
ภาพประกอบจาก www.springnewstv.tv