ทลายฐานใหญ่เขาตะเวเจออุปกรณ์บึ้ม-ป้ายผ้า ฆ่าเผาภรรยาตำรวจยะหริ่ง
ฝ่ายความมั่นคงยิงปะทะกลุ่มติดอาวุธหลายสิบคน ก่อนบุกทลายฐานใหญ่กลุ่มก่อความไม่สงบบนเขาตะเว เจออุปกรณ์ประกอบระเบิดอื้อ-ป้ายผ้า พร้อมจัดกำลังล่าตามรอยเลือดผู้ต้องสงสัยที่กระจายกันหลบหนี โฆษก กอ.รมน.ชี้ พบชุดลายพรางทหารเพียบ คาดนำไปใส่ก่อเหตุป้ายสีเจ้าหน้าที่ ยะหริ่งสลด ฆ่าเผาว่าที่ร้อยตรีหญิง "ภรรยาตำรวจ" ชิงรถหนี สุดท้ายเจอจอดทิ้งห่างจากจุดเกิดเหตุ 10 กิโลเมตร
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ห้วงวันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ.ถึงวันจันทร์ที่ 10 ก.พ.2557 มีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เริ่มจากผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตามแผนยุทธการพิทักษ์ตะเว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 และ 45 จัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่เขาตะเว บ้านบือแจง หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ผลการพิสูจน์ทราบพบกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยหลายสิบคน จึงเกิดการยิงปะทะกันนานกว่า 30 นาที หลังสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบฐานขนาดใหญ่เป็นทั้งค่ายพักและค่ายฝึกของกลุ่มก่อคาวมไม่สงบ คาดว่ามีคนพักอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 30 คน โดยฐานนี้คาดว่าใช้เป็นสถานที่ประกอบระเบิดเพื่อก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จ.นราธิวาสด้วย ทั้งยังพบรอยเลือดเป็นทางยาวไปบนภูเขา คาดว่าฝ่ายติดอาวุธต้องสงสัยถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาได้มีการขอกำลังเสริมเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบที่พักสนามกว่า 10 หลังตั้งอยู่ริมธารน้ำตก และสามารถตรวจยึดอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด วงจรอิเลคทรอนิกส์ สารประกอบระเบิด ป้ายผ้าที่คาดว่าจะนำไปสร้างสถานการณ์ก่อกวน ตลอดจนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ดำรงชีพในป่า และเครื่องใช้ส่วนตัวจำนวนมาก
ของกลางที่ตรวจยึดประกอบบึ้มได้ 30 ลูก
ต่อมา วันจันทร์ที่ 10 ก.พ. พ.อ.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 45 ได้จัดกำลังรวม 150 นายออกลาดตระเวนปิดล้อมรอบเทือกเขาตะเว เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบซึ่งคาดว่ามีประมาณ 30 คนที่กำลังหลบหนีหลังยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและถูกทลายฐานบนภูเขา
พร้อมกันนี้ ได้ประสานชุดนิติวิทยาศาสตร์ และตำรวจ สภ.ระแงะร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อตรวจหาลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอจากวัตถุพยานที่ยึดได้กว่า 100 รายการ ทั้งนี้ของกลางดังกล่าวสามารถผลิตระเบิดแสวงเครื่องได้ไม่ต่ำกว่า 30 ลูก และเชื่อว่าค่ายพักแห่งนี้เป็นแหล่งประกอบระเบิดแสวงเครื่องของกลุ่มก่อความไม่สงบด้วย
พบชุดทหาร-ป้ายผ้า ชี้ชัดใส่ร้าย-ก่อป่วน
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า สิ่งที่พบบนเขาตะเวสามารถตอบโจทย์ให้กับสังคมได้ค่อนข้างมาก คือ เจ้าหน้าที่สามารถหยุดยั้งการก่อเหตุร้ายต่อประชาชนและสถานที่โดยเฉพาะการวางระเบิดได้จำนวนมาก เพราะพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบเสร็จแล้วหลายลูก ทั้งยังพบอุปกรณ์ที่ประกอบวัตถุระเบิดอีกจำนวนไม่น้อย รวมทั้งเครื่องแต่งกายของทหารชุดลายพราง 10 ชุด ชุดแต่งกายของทหารพรานอีก 20 ชุด คาดว่ามีความพยายามแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กล่าวชมเชยกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สามารถเข้ายึดฐานที่พักของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ ถือเป็นการสกัดการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ จ.นราธิวาส เนื่องในวันครบรอบ 1 ปีการสูญเสียของกลุ่มก่อความไม่สงบจากการเข้าตีฐานปฏิบัติการบ้านยือลอ ต.บาเรเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 16 คนรวมทั้ง นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำคนสำคัญของ อ.บาเจาะ
พ.อ.บรรพต กล่าวด้วยว่า จากการตรวจยึดของกลางพบเครื่องแบบลายพรางเพื่อใส่อำพรางและใส่ร้ายว่าการก่อเหตุรุนแรงเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ และยังพบแผ่นป้ายข้อความโฆษณาชวนเชื่อซึ่งเป็นการแสดงว่าการติดป้ายผ้าข้อความที่ผ่านมาเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ฆ่าเผาทหารหญิง "ภรรยาตำรวจ" ที่ยะหริ่ง
วันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ.เวลา 17.20 น.ยังเกิดเหตุสลด คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.จ่อยิง ว่าที่ ร.ต.หญิง เบญจพร เกื้อตุ้ง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/9 หมู่ 4 ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เสียชีวิต และถูกจุดไฟเผาทำลายศพ เหตุเกิดบนถนนสายยะหริ่ง-บ้านม่วงหวาน สี่แยก อบต.ราตาปันยัง บ้านพังกับ หมู่ 3 ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบจนทราบว่า ว่าที่ ร.ต.หญิงเบญจพร เป็นภรรยาของ จ.ส.ต.ณรงค์ศักดิ์ เกตุแดง ตำรวจ สภ.ราตาปันยัง ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีบรอนซ์-เงิน หมายเลขทะเบียน กค 4517 พัทลุง ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดนัดพังกับ แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิงใส่จนเสียชีวิต แล้วจุดไฟเผาเพื่อทำลายศพ ก่อนนำรถของ ว่าที่ ร.ต.หญิงเบญจพร หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เจอรถถูกจอดทิ้งห่างจุดเกิดเหตุ 10 กิโลฯ
ต่อมา วันจันทร์ที่ 10 ก.พ. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ของ ว่าที่ ร.ต.หญิงเบญจพร ถูกจอดทิ้งไว้ข้างกุโบร์ (สุสานของชาวมุสลิม) หมู่ 7 ต.ปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี
สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เห็นผู้ต้องสงสัยเป็นชายขับรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ ก่อนจะเดินหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า หลังจากก่อเหตุคนร้ายอาจนำรถไปจอดซ่อนในหมู่บ้าน เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายรถก่อนอีกครั้งโดยอาศัยช่วงเวลาที่มีคนพลุกพล่านน้อย โดยจุดที่พบรถอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุฆ่าเผา ว่าที่ ร.ต.หญิงเบญจพร ราว 10 กิโลเมตร
อส.มายอเหยียบกับระเบิดในสวนยางดับ
วันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ.เช่นกัน เวลา 08.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดในสวนยางพารา ทำให้ นายลาเตะ ดอเลาะ อายุ 49 ปี อาสารักษาดินแดน (อส.) อ.มายอ จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 26/5 บ้านน้ำใส หมู่ 5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ เสียชีวิตคาที่
ทั้งนี้ เหตุเกิดขณะที่ นายลาเตะ ได้ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน แบบ 4 ประตู สีบรอนซ์ ไปจอดบริเวณริมถนน จากนั้นได้เดินเข้าไปในสวนยางพาราของตนเองที่บ้านน้ำใส ต.ลุโบะยิไร ห่างจากจุดจอดรถประมาณ 300 เมตร และพลาดไปเหยียบ "กับระเบิดแสวงเครื่อง" ที่คนร้ายประกอบใส่ถังแก๊ส ฝังไว้ใต้ดิน จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ทำให้ นายลาเตะ เสียชีวิตทันที เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงตำรวจสุไหงปาดีหวิดสิ้นชื่อ
วันจันทร์ที่ 10 ก.พ. เวลา 16.40 น. ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักถูกคนร้ายตามประกบยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณสามแยกไอบาตู หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงอยู่ริมถนน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ ส.ต.ต.อัจฉริยพงษ์ ตั๊นงาม อายุ 36 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.สุไหงปาดี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายบริเวณกลางหลัง 2 นัด อาการสาหัส
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ต.อัจฉริยพงษ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจาก สภ.สุไหงปาดี เพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง จนรถจักรยานยนต์ของ ส.ต.ต.อัจฉริยพงษ์ เสียหลักล้มคว่ำ คนร้ายได้จอดรถเตรียมลงมายิงซ้ำ แต่มีชาวบ้านขับรถผ่านมา คนร้ายจึงเปลี่ยนใจเร่งเครื่องรถหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ทหารพรานถูกยิงที่ยะหริ่งดับเพิ่มอีก 1
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายประกบยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) จีรศักดิ์ จิตตรานนท์ อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และ อส.ทพ.ธนเลิศ เสพสุข อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.หนองแรต อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นั้น
มีรายงานจากโรงพยาบาลปัตตานีว่า อส.ทพ.ธนเลิศ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ส่วนที่ อ.เมือง จ.ยะลา วันเสาร์ที่ 8 ก.พ.เช่นกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอาซิ สามะ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านบาตันใน หมู่ 5 ต.ลิดล ขณะที่นายอาซิกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากสวนยางพารา กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : วัตถุระเบิดแสวงเครื่องและอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่ยึดได้จากฐานกลุ่มก่อความไม่สงบบนเขาตะเว
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ