ตีข่าว ‘คลิปฉาวดารา’ จำเป็นด้วยหรือ ???
“ไม่ว่ายศถาบรรดาใด เมื่ออยากขึ้นมาอะไรก็เอาไม่อยู่”
อาจจะเป็นประโยคเปรียบเปรยที่ดูรุนแรงไป แต่หากลองย้อนคิดให้ดีมันคือความจริงของมนุษย์ที่มิอาจหลีกหนีพ้นเรื่องเพศสัมพันธ์เช่นนี้ได้ โดยเฉพาะ ‘ดารานักแสดง’ ที่ถูกตีตราให้เป็นคนของประชาชน ห้ามมีรอยด่างพร้อยเปรอะเปื้อนเนื้อตัว มิเช่นนั้นอาจนำมาซึ่งสิ่งที่ไม่คาดคิด
แต่แม้จะระมัดระวังมากเพียงใด สุดท้ายมิอาจรอดพ้นสายตาเหยี่ยวข่าวบันเทิงไทย ยิ่งเรื่องลับ ๆ ใคร่ ๆ เพียงแค่สะกิดปลายปากกาก็กระดิกจรดบนกระดาษทันที ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่ามี ‘คลิปลับร่วมเพศ’ ของดารานักแสดงเผยแพร่ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตมากมาย จริงบ้าง...ไม่จริงบ้าง ขึ้นอยู่กับการตอบข้อซักถามต่อสื่อ
แล้วผิดด้วยเหรอที่ดารานักแสดงจะมีโลกส่วนตัวในเรื่องเพศ...แล้วสื่อบันเทิงไทยมีสิทธิที่จะล้วงความลับนี้หรือไม่...เป็นคำถามที่ชวนคิดเป็นที่สุด
‘ชงหมิง-อัชฌา’ เหยี่ยวข่าวสาวบันเทิงจากเนชั่น ระบุว่า การนำเสนอข่าวบันเทิงในประเด็น ‘เเฉคลิปลับ คลิปเสียว’ เพื่อตีเเผ่เป็นข่าวนั้น บางครั้งไม่จำเป็น แต่บางครั้งคลิปหรือภาพหลุดเหล่านั้นถูกเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียวจนเกิดเป็นกระแส ในฐานะผู้สื่อข่าวบันเทิงจึงจำเป็นต้องสัมภาษณ์กับแหล่งข่าว เพื่อให้ได้ชี้แจงความจริง
“ มีหลายครั้งที่ผู้สื่อข่าวมีภาพ มีคลิปฉาวดาราอยู่ในมือ แต่ไม่นำออกมาทำให้เป็นประเด็นข่าว ซึ่งเรื่องนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของนักข่าวแต่ละคนด้วย คุณค่าของข่าวคือผู้เสพข่าวจะได้ฟังคำชี้แจงจากเจ้าตัวไม่ว่าจริงหรือเท็จ ก็เป็นสิ่งที่ออกจากปากดารานักแสดงต้นเรื่องเอง ไม่ใช่ฟังคนนู้นคนนี้พูดมา หรือเดากันไปเอง” เหยี่ยวข่าวสาว กล่าว
ขณะที่อีกมุมมองหนึ่งจาก ‘จุ๋ม’ นักศึกษาปริญญาโท ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะแฟนคลับดารานักแสดงกลับเห็นต่างว่า ผู้สื่อข่าวบันเทิงไม่จำเป็นต้องนำเสนอเรื่องคลิปฉาว เพราะเรื่องบางเรื่องเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่ทุกคนพึงจะได้รับ แม้ตามรัฐธรรมนูญ บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปก้าวก่ายพื้นฐานความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น
“แม้สื่อบันเทิงจะมีสิทธิ์ในการนำเสนอข่าวสาร และเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดสารไปหาประชาชน ถ่ายทอดในสิ่งที่กำลังเป็นกระแส ประชาชนอยากรู้ หรือเรียกว่า ขายข่าวได้ แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของจรรยาบรรณและมโนธรรมด้วย” จุ๋ม กล่าว
พร้อมยกตัวอย่างข่าวของดาราช่อง 3 อย่างบอย ปกรณ์ ซึ่งเป็นข่าวที่ทุกคนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าหากมองว่าเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง มันก็คือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่ได้ก่อผลกระทบต่อสังคมในระดับมาก แม้จะบอกว่าเป็นคนของสังคม ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชน แต่หากสื่อไม่นำเสนอ ไม่ขุดคุ้ย ไม่ตอกย้ำเรื่องราว ไม่ใส่สีตีข่าวให้โด่งดัง ก็จะไม่เกิดภาพจดจำให้แก่คนในสังคมใช่หรือไม่ เพราะเรื่องบางเรื่องเช่นนี้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่คนดูข่าวต้องการจะรับรู้ในทุก ๆ วัน เพราะฉะนั้นสื่อนี่แหละที่เป็นผู้ทำร้ายสังคมอย่างแท้จริง
ส่วน ‘กั้ง’ นักเต้นสาว-ดาราตัวประกอบ กล่าวว่า เข้าใจว่าข่าวฉาวมักขายได้ แต่หากเป็นคลิปลับของดารานักแสดง ซึ่งเป็นไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาเปิดเผยในที่แจ้ง เพราะอาจจะส่งผลให้ผู้ตกเป็นข่าวเกิดภาพลบและคนจดจำไปได้
อย่างไรก็ตาม ในทัศนคติของผู้เขียนกลับเห็นด้วยในทุกความคิด แม้จะมีเหตุและผลแตกต่างกันออกไป แต่ท้ายที่สุด ในจิตใจลึก ๆ แล้วอยากจะเห็นสื่อบันเทิงไทยเลิกตีแผ่หรือประโคมข่าวมุมคลิปฉาวเช่นนี้อีก เพราะมิได้เกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ตกเป็นข่าวและผู้บริโภคแต่อย่างใดเลย อีกทั้ง ยังยากที่จะจรรโลงสังคมได้ นอกเสียจากการนำมาวิพากษ์วิจารณ์ในจินตนาการต่าง ๆ จากข่าวอันไม่พึงประสงค์เช่นนี้ สร้างปมหมกมุ่นจนถูกตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่อยากโด่งดังใช้วิธีปล่อยคลิปตนเองออกมาอีกต่างหาก
ทั้งนี้ จะให้ดี ‘ดารานักแสดง’ ควรที่จะระมัดระวังตัวให้มากขึ้นจะดีกว่า...ส่วนสื่อบันเทิงเองก็ควรยึดหลักจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด หลุดพ้นจากคำว่า 'ขายข่าว' ให้ได้
เพียงเท่านี้สังคมไทยก็ยกระดับขึ้นได้ไม่ยาก .
twitter:@jibjoyisranews