เปิดบัญชีทรัพย์สิน 487 อดีต ส.ส. “ปู” เพิ่ม 28 ล้าน-“บิ๊กบัง”แจ้งโสด เงินลด
ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 487 อดีต ส.ส. “ยิ่งลักษณ์” รวยขึ้น 28 ล. “ณัฐวุฒิ” เพิ่ม 14 ล. “บิ๊กบัง” แจ้งโสดเงินลด 27 ล. ด้าน “ชูวิทย์” เงินหายกว่า 300 ล.-อดีต ส.ส.ปชป.ยังรวยสุด 2 พันล้าน
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี มีการเปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส.จำนวน 487 คน กรณี “พ้นจากตำแหน่ง” เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2556 และวันที่ 9 ธ.ค.2556 (พรรคประชาธิปัตย์ลาออกยกพรรคและนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ตามลำดับ) โดยมีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 575,732,321 บาท แบ่งเป็นเงินสด 14,588,900 บาท เงินฝาก 5,313,576 บาท เงินลงทุน 124,183,802 บาท เงินให้กู้ยืม 110,301,369 บาท ที่ดิน 117,186,350 บาท ยานพาหนะ 21,990,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,056,431 บาท ทรัพย์สินอื่น 45,690,00 บาท คู่สมรส 36,634,690 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1,283,280 บาท และมีหนี้สิน 28,229,572 บาท
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 28,197,305 บาท
ทั้งนี้ ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ อยู่ในส่วนของ “ที่ดิน” ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 52 ล้านบาท โดยเป็นที่ดิน 1 ไร่เศษ ที่ ต.คลองกุ่ม อ.บึงกุ่ม กทม. “เงินลงทุน” ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 13 ล้านบาท จากการซื้อหุ้นในหลายๆ กองทุน และ “ยานพาหนะ” ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านบาท จากรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่นวีโต้ แต่ลดลงในส่วนของ “คู่สมรส” กว่า 40 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ลดลง โดยบริษัท เอ็ม-บิท จำกัด 5 แสนหุ้น เดิมมีมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท แต่ล่าสุด เป็น 0 บาท และบริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด จำนวน 4 ล้านหุ้น เดิมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท แต่ล่าสุด เหลือเพียง 5 ล้านบาท
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 41,542,398 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 8,210,583 บาท เงินลงทุน 6,414,250 บาท เงินให้กู้ยืม 180,000 บาท ที่ดิน 10,060,124 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,500,000 บาท ยานพาหนะ 550,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 15,507,000 บาท และมีหนี้สิน 2,879,558 บาท
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อ 2554 นายสุรพงษ์ มีทรัพย์สินลดลง 4,882,891 บาท
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ผอ.ศูนย์รักษาความสงบ ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 178,209,858 บาท แบ่งเป็นเงินสด 400,00 บาท เงินฝาก 4,487,751 บาท ที่ดิน 47,764,450 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 22,100,000 บาท คู่สมรส 95,717,646 บาท ไม่มีหนี้สิน
เมื่อเทียบกับตอบเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 2554 ร.ต.อ.เฉลิม มีทรัพย์สินลดลง 9,147 บาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ที่ถูก ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาในคดีจำนำข้าว ในฐานะอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 18,039,209 บาท แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 603,162 บาท ยานพาหนะ 1,840,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 750,000 บาท คู่สมรส 17,673,921 บาท และมีหนี้สิน 127,874 บาท
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 2554 นายบุญทรงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13,521,464 บาท
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,921,215 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 1,421,215 บาท ยานพาหนะ 500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 2554 นายสมศักดิ์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 64,718,529 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากเดิมนายสมศักดิ์แจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่ามี “ทรัพย์สิน” กว่า 140 ล้านบาท แต่มี “หนี้สิน” ซึ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวมถึงกว่า 203 ล้านบาท แบ่งเป็นบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (คดีหมายเลขดำที่ ล 12329/2552) กว่า 155 ล้านบาท ธนาคารออมสิน (สำนักงานบังคับคดี จ.ขอนแก่น คดีหมายเลขแดงที่ 1306/2545) กว่า 16 ล้านบาท และบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (คดีหมายเลขดำที่ 2171/2547) อีก 31 ล้านบาท แต่ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ล่าสุด นายสมศักดิ์ไม่ได้แจ้งทั้งทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนนี้แล้ว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 19,241,616 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 1,377,016 บาท ที่ดิน 8,526,800 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,500,000 บาท ยานพาหนะ 5,992,990 บาท ทรัพย์สินอื่น 100,000 บาท คู่สมรส 16,045,188 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 128,143 บาท และมีหนี้สิน 14,427,721 บาท
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 2554 นายณัฐวุฒิมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 4,115,201 บาท
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 529,103,317 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 173,752 บาท เงินลงทุน 45,000 บาท เงินให้กู้ยืม 10,014,279 บาท ที่ดิน 103,164,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 10,200,000 บาท ยานพาหนะ 100,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,770,000 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 409,501,137 บาท และมีหนี้สิน 5,865,351 บาท
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 นายชูวิทย์มีทรัพย์สินลดลง 335,824,439 บาท
ทั้งนี้ ทรัพย์สินของนายชูวิทย์ลดลงในส่วนของ “บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ” กว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากเงินลงทุนในบริษัท ต้นตระกูล จำกัด บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด บริษัท บริษัท สมบัติต้นตระกูล จำกัด ฯลฯ หายไป
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ผู้นำการรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 34,153,463 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 31,876,499 บาท เงินลงทุน 15,705,630 บาท ที่ดิน 3,300,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 700,000 บาท ยานพาหนะ 770,000 บาท และมีหนี้สิน 18,198,666 บาท
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 พล.อ.สนธิมีทรัพย์สินลดลง 27,531,158 บาท
เนื่องจากครั้งนี้ พล.อ.สนธิไม่ได้แจ้งทรัพย์สินในส่วนของ “คู่สมรส” และ “บุตรที่ยังไม่ได้บรรลุนิติภาวะ” โดยในปี 2554 พล.อ.สนธิแจ้งว่าสมรส แต่ล่าสุดแจ้งว่า “โสด”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 54,296,206 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 564,676 บาท ที่ดิน 19,581,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 13,800,000 บาท ยานพาหนะ 2,070,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 425,000 บาท คู่สมรส 17,574,230 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 281,299 บาท ไม่มีหนี้สิน
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 นายอภิสิทธิ์มีทรัพย์สินลดลง 283,870 บาท
นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 6,214,439 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 3,700,639 บาท เงินลงทุน 1,000 บาท ที่ดิน 1,200,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 416,000 บาท ยานพาหนะ 100,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 796,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 นายชวนมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,589,404 บาท
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ในฐานะอดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 907,460,896 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 23,330,444 บาท เงินลงทุน 507,683,610 บาท เงินให้กู้ยืม 620,000 บาท ที่ดิน 122,447,633 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 53,100,000 บาท ยานพาหนะ 8,110,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 42,376,297 บาท ทรัพย์สินอื่น 5,553,000 บาท คู่สมรส 144,183,658 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 56,252 บาท ไม่มีหนี้สิน
เมื่อเทียบกับตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 นายกรณ์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 27,987,428 บาท
ฯลฯ เป็นต้น
สำหรับอดีต ส.ส.ที่เคยมีทรัพย์สินมากที่สุดและน้อยที่สุด ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณี “เข้ารับตำแหน่ง” เมื่อปลายปี 2554 ได้แก่ นายประกอบ จิรกิติ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (เคยแจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 2,090,767,696 บาท ) และ นายพิชัย เกียรติวินัยสกุล อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (เคยแจ้งว่ามีทรัพย์สิน 894 บาท) ครั้งนี้ นายประกอบแจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 2,102,701,661 บาท ยังเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุด ส่วนนายพิชัยแจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 872,117 บาท ไม่ใช่ผู้ที่มีทรัพย์สินน้อยที่สุดอีกต่อไปแล้ว