เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปฯ ชี้เลือกตั้งในระบอบ-เงื่อนไขเดิมไม่พ้นวงจรอุบาทว์
‘ธีรยุทธ บุญมี’ ดึงกลุ่มภาควิชาการ ธุรกิจ ศิลปิน สื่อมวลชน เปิดตัว “เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย” เสนอปฏิรูป 5 เรื่อง มุ่งประคับประคองประเทศระยะเปลี่ยนผ่าน พร้อมรับใช้การปฏิรูปในระยะยาว
วันที่ 28 มกราคม 2557 เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย นำโดยนายธีรยุทธ บุญมี รวบรวม กลุ่มบุคคลทั้งจากภาคธุรกิจ วิชาการ ข้าราชการ ประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น ศิลปินดารานักแสดงและสื่อมวลชน กว่า 200 คน แถลงการณ์เดินหน้าขบวนการ “Restart ประเทศไทย” ณ ห้องประชุมกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล กรุงเทพฯ
โดยทางเครือข่ายมุ่งหน้าปฏิรูป 5 เรื่อง ได้แก่
1.ต้านแก้ไขทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อล้มล้างและขจัดการโกงกินบ้านเมืองอย่างได้ผลจริงจัง
2.ปฏิรูปการเมืองการปกครอง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ระหว่างส่วนกลางกับท้องถิ่น อำนาจการจัดการตนเอง งบประมาณ การใช้ทรัพยากร ส่งเสริมความเท่าเทียม
3.ปฏิรูปตำรวจและกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งปรับปรุงระบบการตรวจสอบ ทุกด้านให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพทันเวลาที่จะแก้ปัญหาความอยุติธรรม และการใช้อำนาจโดยมิชอบทั้งปวง
4.ปฏิรูปเศรษฐกิจผูกขาด กระจายทรัพย์สินและรายได้ให้ประชาชนทั้งประเทศอย่างทั่วถึง เป็นธรรม
5.ปฏิรูปสังคมสร้างพลังพลเมืองที่เข้มแข็ง ทั้งในด้านการศึกษา การสื่อสารมวลชน สุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ มีความเชื่อพื้นฐานร่วมกันว่า บัดนี้ ภาคการเมืองหมดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงแล้วในการบริหารประเทศ กระแสความตื่นตัวทางการเมืองครั้งใหญ่ของประชาชนจะเป็นตัวตัดสินใจทิศทางประเทศ โอกาสการเจรจาได้ผ่านเลยไปหมดแล้ว การเลือกตั้งในระบอบเดิมและเงื่อนไขเดิมรังแต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงกว่าเดิมและหนีไม่พ้นวงจรอุบาทว์
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ผู้ประสานงานเครือข่าย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของเครือข่ายฯ ว่า จะรวบรวมบุคคลผู้มีทุนทางสังคมทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง จะร่วมประคับประคองประเทศในระยะเปลี่ยนผ่านและน้อมตัวรับใช้การปฏิรูปในระยะยาว รวมทั้งประกาศก่อตัวเครือข่ายปฏิบัติการนกหวีดปราบโกง เครือข่ายปฏิรูปการเมือง เครือข่ายปฏิรูประบบพลังงาน และเครือข่ายปฏิรูปสังคมเป็นการประเดิม
สำหรับรายชื่อบุคคลที่มาลงนามนั้นเริ่มต้นประมาณ ประกอบด้วย ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล, อ.ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม, คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม, นายอาจินต์ ปัญจพันธ์, นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช, อาจารย์ระพี สาคริก, ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ, น.พ.มงคล ณ สงขลา, ม.ร.ว. อคิน ระพีพัฒน์, นายสุรชัย จันธิมาธร, นางกฤษณา อโศกสิน, ศ.ชัยอนันต์ สมุทวณิช, นายนนทรี นิมิตบุตร, คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา, ดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล, นายธีรยุทธ บุญมี, นายปราโมทย์ ไม้กลัด, ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล, ศ.ดร.สมชัย ฤชุพันธ์ ,คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์,เกริกไกร จีระแพทย์,ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นต้น
สำหรับ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ซึ่งไม่ได้ลงชื่อในครั้งนี้ แต่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงกลุ่มเครือข่ายฯ ว่า ใครก็ตามที่มีสำนึกในความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองและสังคมย่อมตระหนักดีถึงความเสื่อมโทรมที่ปรากฏอยู่ในทุกด้านในบ้านเมืองเรา บรรดากลไกของกลไกกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมิได้ล้าสมัยเมื่อเปรียบเทียบกับนานาประเทศแต่ไม่อาจใช้ได้อย่างได้ผลกับสังคมที่คนส่วนหนึ่งซึ่งมักเป็นผู้มีอำนาจเป็นผู้มีวิธีคิดที่พิสดารเกินกว่าใครจะคาดคิดถึง ความจำเป็นในการปฏิรูปในทุกเรื่องจึงเป็นเรื่องรีบด่วนที่สุด เพื่อให้ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสงบและถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและประเทศไทยจะสามารถพัฒนาไปได้อย่างที่ควรจะเป็น
“การปฏิรูปนั้นไม่อาจทำได้โดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายทุกอาชีพทุกวงการ เพื่อให้ทุกกลุ่มจะนำปัญหามาเปิดเผย พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขมาหลอมรวมกันให้เป็นแนวทางที่ครบถ้วนสามารถนำไปปฏิบัติได้ นับว่าน่าชื่นชมและเป็นนิมิตหมายที่ดีที่บุคคลหลากหลายอาชีพ มารวมตัวกันเพื่อผลักดันและเข้าร่วมปฏิรูปประเทศในครั้งนี้”
รายชื่อบุคคลที่ร่วมลงนาม เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย...