"ศรส." สรุปล้มเลือกตั้งกทม. 45 เขต ใต้ 10 จว. ให้ปชช.แจ้งความ 7 วัน
"ศรส." สรุปยอดกปปส.ล้มหน่วยเลือกตั้ง กทม. 45 เขต ภาคใต้ 10 จว. สั่งสตช.–ดีเอสไอ ดำเนินคดีพวกขวาง เปิดรับให้ปชช.แจ้งความ 7 วัน เล็งลดหย่อนภาษีธนาคาร-เอกชน ที่ช่วยรบ.
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) พร้อมด้วยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศรส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมศรส. โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบศรส. ได้รายงานสถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 ม.ค.ที่มีกลุ่มกปปส.เข้าไปขัดขวางและใช้กำลังประทุษร้ายกับผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งพบว่า ในพื้นที่ 77 จังหวัด สามารถจัดการเลือกตั้งได้ 66 จังหวัด
"มีจังหวัดที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง และพัทลุง ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าในพื้นที่กทม. 50 เขต มีหน่วยเลือกตั้งที่ต้องยุติ 45 เขต แบ่งเป็นกทม. 33 เขต และฝั่งธนบุรี 12 เขต" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายธาริต กล่าวว่า ที่ประชุมศรส.มีมติ 4 เรื่อง 1.เกิดการก่อเหตุร้าย ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในกทม.และต่างจังหวัด โดยแกนนำกปปส.นำประชาชนปิดล้อม ขัดขวาง ประทุษร้าย มีความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือว่ามีโทษร้ายแรง ส่วนกกต.ไม่ได้ขอความช่วยเหลือมายังสตช. และกองทัพ ในการสนับสนุนจัดการเลือกตั้ง ทั้งที่กกต.มีอำนาจ
"การชุมนุมของกปปส.ที่กระทำการปิดสถานที่อย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยและสิทธิส่วนบุคคลอย่างรุนแรงต่อการเลือกตั้ง ศรส.จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกีดขวางการเลือกตั้งไปแจ้งความที่โรงพักประจำท้องที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งศรส.กำชับให้สตช.และดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างรัดกุม" นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวต่อว่า 2.จากการตรวจสอบพฤติกรรมของการ์ดกปปส.พบว่า มีการพกพาอาวุธทั้งปืนสั้นและปืนยาว ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว โดยพบว่ามีการก่อเหตุยิงปืนที่สะพานหัวช้าง โดยจะมีการนำพยานหลักฐานมาแสดงในวันที่ 27 มกราคม 3.ศรส.เห็นชอบให้ดำเนินการขอคืนพื้นที่ราชการ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ โดยจะมีคณะเจรจา ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงหรืออธิบดี เจ้าหน้าที่ทหาร 3 เหล่าทัพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
"4.ศรส.มีมติให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของกปปส.ที่มีการปิดพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นการล่วงละเมิดสิทธิ โดยจะขอให้ประชาชนมาแจ้งความเพื่อขอรับการเยียวยาได้ที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน และสถานีตำรวจทุกแห่ง ทั้งในพื้นที่กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม–3 กุมภาพันธ์ 2557 โดยใช้เพียงบัตรประชาชน และแจ้งภูมิลำเนาที่ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านในพื้นที่ดังกล่าวก็ได้ มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หลังจากรับแจ้งแล้วเจ้าหน้าที่จะออกบันทึกประจำวันเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน" นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดแจ้งความครบ 7 วัน ทางศรส.จะขอความร่วมมือไปยังธนาคาร ห้างร้าน โรงแรม หรือกิจการการค้าทุกประเภท ให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่มีนิติสัมพันธ์กับผู้ประกอบการทั้งหมด เช่น การผ่อนผันระยะเวลาการชำระหนี้ การผ่อนผันค่าปรับกรณีชำระล่าช้า การลดหย่อนค่าเสียหาย และการทุเลาใดๆ เพื่อลดความเสียหาย
"หากกิจการใดๆ ให้ความร่วมมือศรส.จะเสนอรัฐบาลหลังเหตุการณ์ยุติเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือด้านภาระภาษี หรือเงินกู้จากธนาคารของรัฐ เป็นต้น และศรส.จะเสนอรัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือความเสียหายในรูปแบบต่างๆ เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยถูก สถาบันการเงิน เช่น ธนาคารของรัฐ เป็นต้น และข้อมูลการสำรวจความเสียหายครั้งนี้จะใช้เป็นหลักฐานในการประกอบการดำเนินคดีกับกปปส.ด้วย" นายธาริต กล่าว