รบ.งัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมม็อบ ใช้ 60 วัน ตั้ง "เหลิม" นั่งผอ.ศรส.
รบ.งัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมม็อบ ใช้ 60 วัน ตั้ง "เหลิม" นั่งผอ.ศรส. ยึดพื้นที่เดิมกทม.-นนทบุรี-ลาดหลุมแก้ว-บางพลี เริ่ม 22 ม.ค. มอบ "อดุลย์" หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติ “ปึ้ง” คุม "สตช."
วันที่ 21 มกราคม 2557 เวลา 13.30 น. 11.45 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กองบัญชากองทัพอากาศ พร้อมทั้งได้มีการประชุมคู่ขนานของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผบ.สส. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
ต่อมาเวลา 18.00 น. นายสุรพงษ์ พร้อมด้วยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน พล.ต.อ.อดุลย์ พล.ท.ภราดร ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ศอ.รส.ได้ประเมินเหตุการณ์ขณะนี้ปรากฎว่า ผู้ชุมนุมโดยการนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวกได้กระทำการละเมิดกฎหมายมาโดยตลอด โดยการเข้าไปปิดสถานที่ราชการ และธนาคารต่าง มีการข่มขู่ คุกคาม ไม่ให้พนักงานเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเฉพาะเมื่อหน่วยงานราชการและธนาคารได้ย้ายที่ทำการไปยังที่ทำการสำรอง ยังมีการติดตามไปรังควาน ก่อกวน ตัดน้ำตัดไฟ บีบบังคับ ฝืนใจให้ผู้บริหาร ข้าราชการ ออกมาเป่านกหวีด หรือให้พูดไปในทำนองหรือทิศทางที่พวกตนเองต้องการ เสมือนหนึ่งข้าราชการเห็นด้วยกับแนวทางการประท้วงของพวกตน และพบว่า มีผู้สร้างสถานการณ์ควานรุนแรงกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง
“ครม.จึงตัดสินใจที่จะประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้ในการดูแลควบคุมสถานการณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อบังคับการใช้กฎหมายต่อผู้กระทำคามผิด และกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนการชุมนุมในครั้งนี้เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยและประเทศไทยของเราเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมายังมีการเสนอข้อมูลข่าวสารในสื่อต่างๆ ไปในทางยุยง บิดเบือน สร้างความแตกแยกภายในประเทศ อันส่งผลกระทบต่ออความมั่นคงภายในประเทศ โดยรัฐบาลจะยึดแยวทางการปฏิบัติตามหลักสากลต่อผุ้ชุมนุม จะไม่ใช้อาวุธเข้าสลายการชุมนุมแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในวันที่ 22 ม.ค.ตนจะเชิญทูตประเทศต่างๆ มาชี้แจงถึงความจำเป็นในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในครั้งนี้” นายสุพงษ์ กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว ครม.ได้มอบหมายให้ตนทำงานร่วมกับศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยจะทำงานร่วมกับผบ.ตร โดยยึดหลักแนวทาง 5 ข้อ คือ 1.ใช้กฎหมายเป็นหลักในการแก้ปัญหา 2.รัฐบาลและคณะทำงานยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ให้ผู้ชุมนุมใช้สิทธิตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ 4.ใช้หลักสากล จะไม่เข้าไปสลายม็อบเวลากลางคืน และจะไม่ใช้อาวุธ และ5.ผู้ชุมนุมและผู้เกี่ยวข้องต้องเคารพสิทธิของบุคคลอื่นเช่นเดียวกัน ส่วนคนที่มีหมายจับจะต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีอาญาอยู่แล้ว
“ที่ต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 60 วัน เพราะคิดว่าเวลา 60 วัน ก็น่าจะเรียบร้อย นายสุเทพน่าจะเหนื่อยเต็มทนแล้ว เดินมาทั้งวัน หวังว่านายสุเทพน่าจะกลับใจได้ ผมไม่ได้มองว่าเหตุการณ์จะแรงมากกว่านี้แล้ว เพราะไม่มีใครเอาด้วยแล้ว ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้คิดไปทำลายล้าง จะเจรจา ใช้กฎหมายเป็นหลัก ไม่มีนโยบายไปสลายการชุมนุม”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.57 มีระยะเวลาการประกาศใช้ 60 วัน ส่วนพื้นที่การประกาศใช้เป็นไปตามที่มีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง คือ ครอบคลุมพื้นที่กทม. จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ เฉพาะอ.บางพลี และจ.ปทุมธานี เฉพาะอ.ลาดหลุมแก้ว ทั้งนี้ ศรส.มีร.ต.อ.เฉลิม เป็นผอ.ศรส. มีผบ.ตร.เป็นหัวหน้ารับผิดชอบฝ่ายปฏิบัติการ และมีตัวแทนจากเหล่าทัพร่วมเป็นคณะกรรมการ ขณะเดียวกัน นายกฯยังได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ เป็นรองนายกฯ กำกับดูแลสตช.โดยจะใช้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เป็นศูนย์อำนวยการศรส. ในส่วนของกองกำลังทหารจะยังอยู่ที่ 40 กองร้อย