พณ.รับเล็งกู้ธกส.-ออมสิน-เเบงก์พาณิชย์ จ่ายค้างจำนำข้าว
พณ.ร่อนเอกสารแจงจำนำข้าว ไม่เคยมีปัญหา โยนศาล รธน.-กกต.ส่งผลการเงิน รบ.สะดุด ยันไม่ใช้โครงการฯ หาเสียงเลือกตั้ง หาก ธกส.ปล่อยเงินกู้ให้ รบ.จะได้ประโยชน์ ชี้หนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับต่ำมาก
วันที่ 21 มกราคม กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยเอกสารแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่า โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 เมื่อรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ เข้ามารับหน้าที่ โดยการจ่ายเงินตามโครงการจำนำข้าวในปีที่ผ่านๆ มาไม่เคยประสบปัญหา โดยรัฐบาลได้บรรจุแผนโครงการรับจำนำไว้ใน (1) งบประมาณแผ่นดินซึ่งได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และ (2) งบเงินกู้
แต่ปีนี้ที่มีปัญหา เนื่องจากจังหวะทางการเมืองตั้งแต่มีการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญและเกิดชุมนุมทางการเมืองอันนำไปสู่การยุบสภา ทำให้การดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงินของรัฐบาลรักษาการ ต้องได้รับความเห็นชอบ กกต. ก่อน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181
ในการดำเนินโครงการจำนำข้าวปี 56/57 รัฐบาลได้รับจำนำและจ่ายเงินอย่างต่อเนื่องให้แก่ชาวนาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 55,000 ล้านบาท จากวงเงินที่จำเป็นต้องใช้ทั้งสิ้นประมาณ 180,000 ล้านบาท
ดังนั้น การดำเนินการจัดสรรเงินมาใช้ในโครงการจำนำข้าว รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการตามแผนการขอเงินกู้ 1.3 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต. ก่อน ซึ่ง รอง นรม. / รมว. กค. (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) จะไปชี้แจง ต่อ กกต. ในวันที่ 21 ม.ค. 57 รัฐบาลก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กกต. จะให้ความกรุณาให้ความช่วยเหลือแก่ชาวนาที่กำลังเดือดร้อน
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการเก่าที่ทำมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว และโครงการรับจำนำปี 56/57 ก็ได้รับอนุมัติจาก ครม. ตั้งแต่เดือน ก.ย. 56 และได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นโครงการที่ประชาชนและสาธารณชนรับทราบโดยทั่วไปจึงไม่ใช่ประเด็นหรือโครงการเพื่อการหาเสียงเลือกตั้งแต่อย่างใด การดำเนินการในขณะนี้ เป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนา หาก กกต. เห็นชอบแล้ว รัฐบาลก็สามารถกู้เงินและจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ภายใน 2 – 3 สัปดาห์
สำหรับการกู้เงินเพื่อนำมาชำระหนี้ให้แก่ชาวนาตามโครงการฯ รัฐบาลจะขอกู้เงินจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมทั้งธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน
ในส่วนของ ธ.ก.ส. เป็นการกู้เงินจากบัญชีของ ธ.ก.ส. ที่สามารถนำมาปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลได้ในวงเงินประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมตามปกติของธนาคาร โดย ธ.ก.ส. จะได้รับดอกเบี้ยและค่าดำเนินการเป็นรายได้ของธนาคาร ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้รับรายได้จากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท
การกู้ยืมนี้เป็นการช่วยเหลือชาวนาซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และการให้รัฐบาลกู้เงินจะเป็นการให้กู้แก่ลูกหนี้ที่มีความมั่นคงที่สุด เพราะจะมีการใช้เงินคืนอย่างแน่นอน
ในส่วนของสหภาพ ธ.ก.ส. และสหภาพธนาคารออมสินที่ไม่เห็นด้วยกับการให้รัฐบาลกู้ยืม ขอเรียนว่าการปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลในโครงการรับจำนำ ธนาคารทั้งสองแห่งจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ได้รับจากรัฐบาลตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น และเงินที่ได้รับจากการกู้เงินครั้งนี้ก็จะเป็นการนำเงินไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวนาและครอบครัว ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นฐานลูกค้าของธ.ก.ส. และธนาคารออมสินเอง ดังนั้น จะเป็นประโยชน์กับธนาคารทั้งทางตรงและทางอ้อม
รัฐบาลขอยืนยันว่า มีความมุ่นมั่นจะดำเนินการจ่ายเงินให้กับชาวนาอย่างเร่งด่วน และขอยืนยันว่าชาวนาที่ได้นำข้าวมาจำนำแล้ว จะได้รับเงินอย่างแน่นอน เพราะชาวนาที่ได้นำข้าวมาจำนำกับรัฐบาลแล้ว ถือเป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาล และรัฐบาลมีภาระที่จะต้องหาเงินมาชำระหนี้ดังกล่าว
จากการดำเนินโครงการรับจำนำมาตั้งแต่ปี 54 ชาวนาได้เรียกร้องและยืนยันที่จะให้รัฐบาลมีโครงการนี้ตลอดไป เพราะรัฐบาลสามารถที่จะทำให้ราคาข้าวอยู่ในระดับที่เหมาะสม คุ้มค่าแก่การลงทุน ทำให้ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
สำหรับเครดิตของรัฐบาลในการกู้เงิน ยังมีอยู่มากและมั่นคง ยอดหนี้สาธารณะของประเทศอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ประมาณร้อยละ 45 ของ จีดีพี
เปิดความเห็นคลัง เรื่องโครงการจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557
สรุป 4 เรื่องจำนำข้าว ที่เกี่ยวกับ กกต.
จำนำข้าว ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2556 ใช้เงินไปแล้วรวม 463,805 ล้านบาท
'นิพนธ์ พัวพงศกร' ยันคลัง-ครม.รักษาการ ไม่มีอำนาจเพิ่ม กรอบวงเงินจำนำข้าว