เช็คอุณหภูมิร้อน ปี 56 ‘ละครไทย’ โดนใจซิวรางวัล
เริ่มต้นศักราชใหม่ เชื่อมั่นว่าคอละครหลายคนคงรอลุ้นใจจอใจจ่อไปกับงานประกาศผลรางวัลทางโทรทัศน์ที่จะค่อย ๆ ทยอยออกมาในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งรายการใหญ่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ต้องยกให้กับรางวัลเมขลา, โทรทัศน์ทองคำ, คมชัดลึก อวอร์ด, ไนน์ เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด และน้องใหม่อย่าง นาฏราช ซึ่งเหล่าบรรดาผู้จัดละคร ผู้กำกับการแสดง ตลอดจนนักแสดงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างพากันเดินอวดโฉมบนพรมสีต่าง ๆ ด้วยชุดจากห้องเสื้อชื่อดังหลากหลายแบรนด์ เพื่อประชันขันแข่งชิงพื้นที่สื่อหน้า 1 ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับกลยุทธ์เคล็ดลับของแต่ละบุคคลและผู้อยู่เบื้องหลังว่าจะผลักและดันอย่างไรให้เจิดจรัสและสง่าชั่วข้ามคืน
ทั้งนี้ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าในเวทีการประกาศผลรางวัลทางโทรทัศน์นั้น รายการประเภทละครมักถูกจัดอันดับไว้ในช่วงท้ายของทุกเวที อาจจะด้วยหลายเหตุผลหลากหลายประการ แต่ที่แน่ ๆ คือ นักแสดงที่ได้รับรางวัลนั้นสามารถดึงนักข่าวสายบันเทิงให้อยู่จนจบงานได้นั่นเอง ไล่เรียงอันดับรางวัล ตั้งแต่ รางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่น, นักแสดงสมทบชายดีเด่น, นักแสดงนำชายดีเด่น, นักแสดงนำหญิงดีเด่น, ผู้กำกับละครดีเด่น และสุดท้ายกับละครดีเด่นแห่งปี
โดยในรายการประกาศผลรางวัลใหญ่ ๆ นั้น ส่วนมากมักจะตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายแขนงทั้งในแวดวงอาชีพและวิชาการตามสัดส่วนที่เหมาะสม หรือให้ผู้ชมทางบ้านส่งคะแนนโหวต ขึ้นอยู่กับวิธีการในแต่ละปี
ยกเว้น ‘รางวัลนาฏราช’ ซึ่งใช้วิธีคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลจากผู้ที่ประกอบวิชาชีพและอาชีพด้านกิจการโทรทัศน์และวิทยุ ที่เคยได้รับรางวัลย้อนหลังไป 15 ปี ซึ่งคะแนนทั้งหมดจะได้รับการดูแลอย่างดีเทียบชั้นฮอลลิวูด และประกาศผลพร้อมกันในวันเดียว
ซึ่งละครที่คาดว่าจะกวาดรางวัลจากสาขาต่าง ๆ ในทุกเวทีอย่างไม่มีข้อกังขา ประจำปี 2556 หนีไม่พ้นละครแห่งปี ‘ทองเนื้อเก้า’ ผลงานประพันธ์โดย ‘โบตั๋น’ บทโทรทัศน์โดย ‘ยิ่งยศ ปัญญา’ กำกับการแสดงโดย ‘พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง’ ผลิตโดย บริษัท แอค อาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด เผยแพร่ทางช่อง 3 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เรียกว่ามาแรงแซงโค้งลอยละลิ่วเข้าเส้นชัยไปแบบไม่เห็นฝุ่น
ภายหลังก่อนหน้านี้ ผู้เขียนได้จ้อง ๆ มอง ๆ ดูแล้วว่า รางวัลอาจจะตกมาอยู่ที่ละครเรื่อง 5 คุณชาย แห่งวังจุฑาเทพ, บ่วงบาป, สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย และเรือนกาหลง ซึ่งล้วนแต่มีเนื้อหาและคติคำสอนที่สมบูรณ์ รวมถึงขั้นตอนการถ่ายทำที่ละเมียดละไม แต่สุดท้ายหากไม่หลบทางให้ ‘ทองเนื้อเก้า’ เห็นดีคงจะมีเรื่องเป็นแน่
เพราะด้วยบทประพันธ์อมตะของ ‘โบตั๋น’ หรือสุภา สิริสิงห ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2542 ที่ได้สร้างสรรค์แง่คิด คติคำสอน ไว้ในตัวละครหลักของ ‘ทองเนื้อเก้า’ ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง โดยเฉพาะการนำเสนอมุมต่างที่มีอยู่ในชีวิตของ ‘ลำยอง’ และ ‘ด.ช.วันเฉลิม’ ผ่านตัวแปรมากมายที่ปรากฏอยู่ในสังคม เมื่อผนวกกับมือเขียนบทโทรทัศน์ชั้นยอดจาก ‘ยิ่งยศ ปัญญา’ ที่ถ่ายทอดฝีมือตวัดปลายปากกาตามบทประพันธ์แทบจะ 100% ยิ่งเป็นตัวหนุนเสริมให้นักแสดงในเรื่องได้ถ่ายทอดความสามารถกันอย่างเต็มที่
กระทั่งนักแสดงนำหญิงอย่างคุณนายฟองเบียร์ ‘นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี’ ที่ถูกปรามาสว่าจะไม่สามารถถ่ายทอดบทบาท ‘ลำยอง’ ได้ดีเท่าเวอร์ชั่นก่อน ถึงขนาดผู้เขียนเองก็เคยเขียนวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้เช่นกัน แต่สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร เพราะผ่านไปไม่กี่ตอน พัฒนาการของลำยองที่ถูกถ่ายทอดโดยนุ่นนั้นค่อย ๆ กลมกลืนไม่ขัดหูขัดตาเหมือนตอนแรก ๆ สร้างเสียงชื่นชมให้คอละครทางบ้านไม่น้อย โดยเฉพาะฉากตาย 7 นาที ที่ถูกฉายในสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง เรียกว่าตายได้น่าเกลียดและน่าสงสารทีเดียว จึงไม่น่าแปลกหากเธอจะกวาดรางวัลนักแสดงนำหญิงแห่งปีไปครองเหมือนเฉกเช่นเมื่อ 10 ปีก่อน กับบทบาทในละครเรื่อง ‘แม่อายสะอื้น’
สำหรับอีกหนึ่งดาวเด่นระดับท็อปวงการและคาดว่าจะเป็นมือรางวัลนักแสดงสมทบหญิงอย่าง ‘อำภา ภูษิต’ ผู้เคยโด่งดังในหนังเรื่อง สามใบเถา ก็กลับมาทวงบัลลังก์การแสดงอีกครั้งจนพรุแตก แทบจะแซงหน้าตัวเอกอย่างนุ่นกับบทบาทของ ‘ยายแล’ แม่ของลำยอง ทั้งอารมณ์ สายตา ท่าทาง และน้ำเสียงที่แผดจนแทบทะลุคอหอยได้ส่งให้เธอกลายเป็นที่กล่าวขวัญตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศ ถึงขนาดมีการเปลี่ยนบทประพันธ์ให้ตาสิน (ญาณี ตราโมท) ตายแทนยายปั้น (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) เพื่อเอาใจคนดูให้ฟังยายปั้นกับยายแลทะเลาะกันมันกันไปข้าง แต่เป็นการทะเลาะที่แฝงไปด้วยแง่คิดกินใจอย่างยิ่ง
ส่วนนักแสดงนำชายและสมทบชายยอดเยี่ยมนั้น ต้องขอบอกว่าคาดการณ์ค่อนข้างยาก เนื่องจากในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีนักแสดงชายคนใดที่โดดเด่นจนน่าจับตามอง ซึ่งหากจะมองไปยังเจ้าเจมส์ จิ ตัวผู้เขียนเห็นว่าคงเหมาะกับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งมากกว่า เพราะด้วยความสามารถและประสบการณ์ทางการแสดงแล้ว รางวัลนักแสดงชั้นนำคงไม่เหมาะในช่วงเวลานี้ แต่หากโชคเข้าข้างจริง ๆ เห็นควรให้พ่อลูกอ่อนอย่าง ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ’ กับบทบาทของ ‘สันต์’ แห่งทองเนื้อเก้า เข้าชิงดำกับ ‘นิว วงศกร’ กับบทบาทของ ‘ไม้’ แห่งเรือนกาหลง คงลุ้นมันไม่น้อย
และอีกหนึ่งรางวัลกับผู้กำกับละครแห่งปี คงหนีไม่พ้น ‘อ๊อฟ พงษ์พัฒน์’ เป็นแน่ ซึ่งต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าทุกครั้งที่ผู้ชายคนนี้ได้รังสรรค์ละครเรื่องใดขึ้นมาก ความคาดหวังของผู้ชมจะสูงมาก ด้วยเป็นคนมีศิลปะละครในจิตใจเป็นที่สุด มีความละเมียดละไม และเข้าถึงบทละครได้อย่างดี ทำให้ละครแต่ละเรื่องที่นำเสนอล้วนแต่ประทับใจผู้ชม ซึ่งหนึ่งในความทรงจำของผู้เขียน ต้องยกให้กับ ‘กุหลาบสีดำ’ ดังนั้น เมื่อปีนี้คาดว่าจะกวาดรางวัลใหญ่ ๆ มาได้แล้ว จะได้ ‘ผู้กำกับละครแห่งปี’ อีกสักรางวัลจะเป็นไรไป
ทั้งนี้ คงต้องจับตามองว่าท้ายที่สุด ‘ทองเนื้อเก้า’ จะสามารถกวาดถ้วยรางวัลไปได้กี่เวที
รอลุ้นในอีกไม่นาน .
twitter:@jibjoyisranews