เปิดกรุธรรมพุทธทาส ส.ค.ศ.อวยพร 'สร่างความโศก' ปีใหม่
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ ร่วมกับ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ จัดงาน "สวนโมกข์เสวนา" เสวนาธรรมในหัวข้อ“บัตรอวยพร ส.ค.ศ.” โดยพระประสงค์ ปริปุณฺโณ ณ โถงกิจกรรม ชั้น 1 หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
พระประสงค์ ปริปุณฺโณ ศิษย์พระอาจารย์พุทธทาส อินทปัญโญ เล่าถึงคำสอนที่ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่บวชเป็นพระ เคยตั้งใจไว้ว่าจะบวชตามประเพณีเพียง 3 เดือน และภาวนาขอให้มี หูทิพย์ ตาทิพย์ และเหาะได้ ซึ่งท่านพุทธทาสได้สอนว่า ถ้ามีหูทิพย์แล้วได้ยินสิ่งที่ไม่ดีเราเป็นทุกข์ ทิ่มหูให้หนวกเสียดีกว่า มีตาทิพย์เห็นภาพจากที่อื่นแล้วเป็นทุกข์ ทิ่มตาให้บอดไม่ดีกว่าหรือ และการเหาะได้นั่นเป็นกิจของฤๅษีที่ปฏิบัติตนมิใช่ทางศาสนา
แต่ "หูทิพย์" ของพระพุทธเจ้า คือ ฟังแล้วเย็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ไม่กระทบต่อเรา นี่คือหูทิพย์ "ตาทิพย์" คือเห็นภาพที่คนอื่นเห็นแล้วทนอยู่ไม่ได้ แต่เราเห็นแล้วจิตยังเป็นปกติสุขยังเย็นอยู่ได้ นี่คือได้ตาทิพย์ และการ "เหาะได้" อย่างดีก็แค่สุนัขไม่กัด เราควรเหาะทางจิตวิญญาณ กิเลศจะไม่สามารถขบกัดเราได้ เมื่อเราอยู่เหนือกิเลส หลุดพ้นจากกิเลศทั้งปวง
ท่านพุทธทาสเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับเทคโนโลยีว่าเมื่อมีเทคโนโลยีแล้ว ตองมีพุทโธโลยีเข้าไปกำกับด้วย ว่าเราทำอะไร ทำเพื่ออะไร มิเช่นนั้นอาการวิวัฒนาการมันจะทำร้ายเราและกลายเป็นวินาศนาการ อย่าลืมสังเกตใจตนเองด้วยและเมื่อเราทำธุรกิจงานใดก็ต้องมีธุรจิตไว้เสมอ
โดยพระประสงค์ ได้ยกคำอธิบายของพระอาจารย์พุทธทาส ที่ว่า เทคโนโลยีที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อใช้มัน จงอย่าให้มันมาใช้เรา ไม่ให้เราไปเป็นทาสมัน ซึ่งท่านเรียกพวกเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ว่า “ไอ้ยักษ์ตาเดียว”
เราใช้มันอย่าให้มันมาใช้เรา เราใช้มันไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันมาใช้เราปัญหาเกิด เหมือนกับจิตคนเรา ทาสที่ซื่อสัตย์จะเป็นนายที่เหี้ยมโหด ถ้าเราคุมมันได้มันรับใช้เราตลอดชีวิต แต่ถ้าเราคุมมันไม่ได้มันจะทำร้ายเราตลอดชีวิต อยู่ที่ไหนก็วุ่นวายตลอด อยู่ในที่ร้อนก็อบอุ่น อยู่ในที่วุ่นก็สบาย ใครมีปัญหาเราไม่มีปัญหากับใคร
สำหรับในปีใหม่นี้คนนิยมส่ง ส.ค.ส. ที่เป็นตัวย่อของ "ส่งความสุข" นั้น พระประสงค์ ได้กล่าวถึงคำที่ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า ความสุขมิสามารถหยิบยื่นให้แก่กันได้ เพราะไม่มีตัวตนไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ขอให้ใช้คำว่า สื่อความสุข สื่อความสงบ
ส.ค.ศ. ของท่าพุทธทาสนั้น แปลว่า “สร่างความโศก” คือหายจากความทุกข์ทั้งปวง โดยพระประสงค์ได้แบ่งคนในโลกออกเป็น 3 กลุ่ม และว่าใครเป็นคนกลุ่มใดอยู่ที่ใจเราเลือกเอง
กลุ่มที่ 1 อยู่ในที่ยุ่งเขาก็ไม่ยุ่ง ยิ่งอยู่ในที่ไม่ยุ่งเขายิ่งสบายใจ
กลุ่มที่ 2 อยู่ในที่ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง แต่พอเข้าไปอยู่ในที่ยุ่งก็อดยุ่งกับเขาไม่ได้
และ กลุ่มที่ 3 อยู่ในที่ไม่ยุ่งก็หาเรื่องยุ่ง ยิ่งเข้าไปอยู่ในที่ยุ่งยิ่งยุ่งหนักเข้าไปใหญ่
พระอาจารย์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้คนเราใฝ่หาความสุขกันมักขึ้น โดยที่ไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไรและอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นปัจจุบันนี้ที่หาความสุขกันผิดทาง
ท่านได้ยกคำกลอนของท่านพุทธทาส ว่า ความเอ๋ย ความสุข ใครๆ ทุกคนชอบเจ้าเข้าวิ่งหา แกก็สุขฉันก็สุขทุกเวลา แต่ดูหน้าตาแห้ง ยังแคลงใจ ถ้าเราเผาตัวตัญหาก็น่าจะสุข หรือเกรียมไหม้ เขาว่าสุข สุขเน้ออย่าเห่อไป มันสุขเย็น หรือสุกไหม้ ให้แน่เอย
เพราะความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ตัวของตนเอง ดั้นด้นค้นหา สุขไหนหว่าจนสุดขอบโลก ยังเศร้าโศกอยู่ภายใน หาแทบเป็นแทบตาย อยู่ที่ใจกูเอง
การรักษาศีล 5 ข้อสำหรับบางคนมักลายเป็นเรื่องยาก พระประสงค์ แนะนำว่า หากเราไม่สามารถรักษาศีล 5 ได้ เรารักษาเพียงข้อเดียวคือ รักผู้อื่น เพราะเมื่อรักผู้อื่นแล้วก็จะทำให้เราไม่สามารถทำผิดศีลทั้ง5 ข้อได้เลย เมื่อเรารักผู้อื่นก็ก็จะไม่มีทางประทุษร้ายต่อผู้อื่นได้เลย เมื่อเรารักผู้อื่น เราไม่ประทุษร้ายของรักของผู้อื่น เมื่อเรารักผู้อื่นเราก็ไม่สามารถแย้งชิงบุคคลอันเป็นที่รักของผู้อื่นได้ เมื่อเรารักผู้อื่นเราก็ไม่สามารถพูดปดกับผู้อื่นได้ และเมื่อเรารักผู้อื่นเราก็ไม่สามารถประทุษร้ายสติสัมปชัญญะของตนเองอันเป็นที่รักของผู้อื่น
เพียงเท่านี้ศีลทั้ง 5 ข้อก็จักสมบูรณ์
ทั้งนี้ พระประสงค์ ได้มีโครงการนำตาลปัตรเก่า ที่ไม่ได้ใช้แล้วมาวาดเป็นภาพที่สื่อถึงความหมาย คำสอน เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากการเห็นท่านพุทธทาสที่มักใช้อุปกรณ์รอบตัวในการสอนธรรมมะ และได้เห็นท่านเขียนตาลปัตรเก่า ว่า "การทำงานคือการเห็นธรรม" จึงเกิดความคิดที่จะนำสิ่งรอบตัวมาทำให้เกิดประโยชน์
รูปลิงขาวปอกมังคุดกินและลิงดำกินมังคุดทั้งเปลือกหน้าบูดเบี้ยว
มาจากคำสอนของท่านพุทธทาสที่ว่า ไอ้จ๋อหนึ่งกินทั้งเปลือกว่าฝาด ก็อาละวาดคว้างทิ้งกลิ้งหลุนๆ ไอ้จ๋อหนึ่งมีปัญญารู้ค่าคุณ หยิบบิดุนกินเนื้อใน ชื่นใจลิง คนโง่รับศาสนาร้องว่าฝาดก็อาละวาดโกรธใจคล้ายผีสิง อัตบุรุษผุดพระธรรมได้ความจริง ดื่มธรรมยิ่งดื่มสุขทุกวันคืน ลิงหรือคนก็วิกลได้ด้วยกัน กลืนเผือกมันก็กลืนคล่องไม่ต้องฝืน กลืนทั้งเปลือกตาเหลือกตายทั้งยืน กลืนเนื้อในชื่นมื่นรื่น
ภาพคนเล่นไลน์
คนเล่นไลน์ ไลน์เล่นคนวกวนอยู่ ใครเล่นใครไม่รู้ดูสับสน ถ้าเล่นไลน์แล้วไม่รู้อยู่กับตน เรียกว่าโดนไลน์เล่นเป็นเวรกรรม คนเล่นไลน์ ไลน์เล่นคนวกวนอยู่ ใครเล่นใครไม่รู้ดูสับสน ถ้าเล่นไลน์แล้วรู้อยู่กับตน เรียกว่าคนเล่นไลน์กดไลค์เลย
ภาพ ME สะท้อนในน้ำ WE
อย่าแคร์แต่ตัวเรา แต่ต้องแคร์คนรอบข้างด้วย ในทุกสังคมใดที่ ME เป็นใหญ่ โลกจะกลับโกลาหล WE คือเงาของเราทุกๆคน วอนปวงชนอยู่แบบ WE มีสุขเอย