เปิดใจ “3 พรรคการเมืองเล็ก” “หวังเลือกตั้งเดินหน้าควบคู่ปฏิรูป”
“การปฏิรูปก็อยากให้ทำไปพร้อมกับเลือกตั้ง แต่ก็คงทำไปได้ยาก ก็ไม่ยอมกันเลยอย่างนี้ คือไม่ไว้ใจกันเลย แล้วคนกลางก็ไม่รู้ว่าใครจะมาช่วยเราได้ ตนก็เป็นส.ส.พรรคเล็ก ได้แต่หวังให้บ้านเมืองสงบ เป็นแบบนี้มันไม่สนุกเลย”
เป็นที่ถกเถียงกันไม่รู้จบว่าท้ายสุดแล้วควร “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” หรือ “เลือกตั้งเสร็จค่อยปฏิรูป”
แต่พลันที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการกปปส. ประกาศบนเวทีราชดำเนิน จะนำมวลชนเข้ามา “ยึดกรุงเทพ” หลังปีใหม่ เดินเกมปิดประตู “เลือกตั้ง” จัดตั้ง “สภาประชาชน” ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม
ผนวกกับก่อนหน้านี้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลดำเนินการเลื่อนเลือกตั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายที่จุดรับสมัครเลือกตั้ง สนามกีฬาไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอนำเสนอความคิดเห็นของบรรดาแกนนำ “พรรคการเมืองเล็ก” ต่อทิศทางการเมืองไทย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย
สถานการณ์การเมืองจะมีความวุ่นวาย หลังปีใหม่จะเพิ่มความวุ่นวายขึ้น ผมทำนายว่าวันที่ 2 มกราคม 2557 กกต.จะลาออกอย่างน้อย 2 คน และป.ป.ช.จะมีมติฟันนายนิคม ไวยรัชพานณิชย์ ประธานวุฒิสภา ทำให้ไม่สามารถสรรหากกต.ใหม่เข้าทำหน้าที่ได้ สถานการณ์นั้นจะต้องสุกงอมพอสมควร
“ผมพูดตั้งแต่วันที่ผมสมัครแล้ว ผมต้องยึดในกติกา เราเหมือนนักกีฬา อนาคตกรรมการจะลาออก กรรมการจะป่วย หรือคู่แข่งจะไม่เข้าแข่งขัน ทุกอย่างมันต้องเป็นอนาคต แต่วันนี้ผมปฏิบัติตามกติกาก่อน และผมเชื่อว่าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 การเลือกตั้งก็คงจะเป็นการเลือกตั้งที่วุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย”
ส่วนการปฏิรูปผมคิดว่าทำไปพร้อมกับการเลือกตั้งได้ เมื่อมีการเลือกตั้งก็มีการปฏิรูปได้ เพราะว่าการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งจะมีความเสียหายมาก เช่น เมื่อไม่มีสภานิติบัญญัติ ไม่มีสภาผู้แทน ก็ไม่สามารถออกกฎหมายได้ ไม่สามารถออกงบประมาณได้ การพิจารณางบประมาณก็จะไม่มี เมื่อไม่มีงบประมาณ ก็จะได้รับเฉพาะเงินเดือนข้าราชการ ก็จะไม่มีงบลงทุน เป็นต้น”
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย
วันนี้ขึ้นอยู่กับวันที่ 2 มกราคม 2557 ว่ากกต.จะออกแถลงการณ์ว่าอย่างไร ก็ต้องดูทิศทางหมด วันนี้เราจะพิมพ์โปสเตอร์หรืออะไร เราก็ไม่กล้าพิมพ์ เพราะขึ้นอยู่กับว่ากกต.จะเอาอย่างไร
“ผมอยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะเป็นโอกาสของพรรคเล็ก พอพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งลง พรรคเล็กก็มีโอกาส และพรรคเล็กมีทางเลือกได้เยอะ พรรคใหญ่มีกฎระเบียบพรรคมาก พรรคเล็กนี่เลือกทำงานที่ตัวเองถนัด และให้ประชาชนเขารู้เขาตัดสินใจเองว่า เขาตัดสินใจอย่างไร ถึงแม้จะมีเพียง 1 เสียง 2 เสียง รวมกันเป็น 100 เสียง ก็ยังดีมีประโยชน์”
การเลือกตั้งนี้มันต้องมี เพราะมันฝืนต่อไม่ได้ กฎหมายมันเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องไปอย่างนี้ แต่ว่ามันอาจลำบากทุลักทุเลหน่อยเท่านั้นแหละ แต่ถามว่าหลังเลือกตั้งสงบไหม มันก็ไม่สงบ มันก็เป็นอยู่อย่างนี้ และจะต้องเลือกตั้งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจบ อาจมี 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง บางเขตอาจไม่ได้คะแนนเท่าที่ควร
ส่วนการปฏิรูป เราก็ไม่รู้ว่าปฏิรูปอะไร กรรมการจะตั้งก็ไม่รู้จะตั้งใครมา วันนี้ทั้ง 2 กลุ่ม ต้องระบุเสียก่อนว่าปฏิรูปเรื่องอะไร และคนที่จะมาปฏิรูประบุชื่อออกมาก่อน ก่อนที่จะปฏิรูป ฝั่งนี้ตั้งใครมาบ้าง ฝั่งนี้ตั้งใครมาบ้าง
นางพัชรินทร์ มั่นปาน ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคมหาชน
การเมืองหลังปีใหม่มันต้องวุ่นอีกเยอะ ดูท่าทางไม่ยอมกันอีก ยังลำบากใจเลยว่าตอนนี้จะมีการเลือกตั้งหรือเปล่า แต่ตนเป็น สส บัญชีรายชื่อ ตอนนี้ก็ทำใจ ตอนแรกก็กระตือรือล้นอยากลงสมัครต่อ เพราะเหตุการณ์อย่างนี้รู้สึกว่ามันไม่นิ่ง เลยได้ไปสมัครวันสุดท้าย
ตอนนี้คิดว่าหากมีการเลือกตั้ง รัฐบาลอยู่ได้ไม่นาน อยู่ได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง อาจจะจัดการให้มันเข้าที่เข้าทาง และก็ยุบสภาและก็เลือกกันใหม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ลงด้วย มันก็เลยไม่เต็มร้อย
ส่วนการปฏิรูปก็อยากให้ทำไปพร้อมกับเลือกตั้ง แต่ก็คงทำไปได้ยาก ก็ไม่ยอมกันเลยอย่างนี้ คือไม่ไว้ใจกันเลย แล้วคนกลางก็ไม่รู้ว่าใครจะมาช่วยเราได้ ตนก็เป็นส.ส.พรรคเล็ก ได้แต่หวังให้บ้านเมืองสงบ เป็นแบบนี้มันไม่สนุกเลย จะไปหาเสียงก็กลัว ปี 2554 มันไม่มีเรื่องคาใจมันเต็มที่ไปไหนก็โปร่ง มีเรี่ยวมีแรง
“ตอนนี้เข้าบ้านไหนก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ฝ่ายไหนบ้าง เราจะถูกตะเพิดหรือไม่ ถ้าเจอบ้านที่เขาไม่เอาเลือกตั้งเขาจะเอาน้ำสาดเราหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ใจ”