ยกคดีฟ้องโครงบริหารจัดการน้ำ3.5แสนล้าน เป็นคดีที่สุดของปี
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยกคดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน เป็นคดีที่สุดของปี ย้ำประชาชนได้อานิสงส์ทั่วประเทศ เผยที่ฟ้องเพราะชาวบ้านร้องขอ ยันเป็นนักกฎหมายทำได้ทุกเรื่อง
ตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลหลายโครงการถูกฟ้องร้องและตรวจสอบเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการการบริหารจัดการน้ำ เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ทั้งนี้หนึ่งในผู้ที่ยื่นคำฟ้องนโยบายต่างๆของภาครัฐมากที่สุดคนหนึ่งในรอบปีนี้ต้องมีชื่อเจ้าพ่อขาร้อง ปรากฎอยู่ด้วย คือนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาต่อต้านสภาวะโลกร้อน
นายศรีสุวรรณ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า สำหรับคดีที่คิดว่า เป็นที่สุดในปีนี้คงเป็นทุกคดีที่มีการฟ้องร้องเนื่องจากเป็นขอเรียกร้องของชาวบ้านและยืนยันว่า ทุกคดีที่ฟ้องไปถือเป็นคดีที่สุดทุกคดี เนื่องจากมีผลกระทบและความทุกข์ร้อนของชาวบ้านทั้งในด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงให้ความสำคัญทุกคดี
แต่หากเป็นโครงการใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญและผลแห่งคดีนั้นมีหลายคนคาดหวัง และผลที่ออกมาทำให้หลายคนยิ้มแย้มแจ่มใส คือโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพราะการฟ้องคดีนี้ทำให้ได้รับอานิสงส์กันทั้งประเทศ ศาลปกครองมีคำสั่งให้รัฐบาลต้องทำเวทีประชาพิจารณ์ ทำให้ภาคประชาชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องการป้องกันปัญหาน้ำท่วม และก่อให้เกิดการเฝ้าระวังในโครงการบริหารจัดการน้ำ
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ไฮไลท์นอกจากคดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทแล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีคดีนิคมมาบตาพุดที่เราสามารถหยุดยั้งอุตสาหกรรม เบรกการลงทุนได้เป็นแสนล้านบาทเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคตะวันออกไว้ได้ รวมทั้งยังก่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการ ทำให้ภาครัฐและเอกชนเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นคดีที่จุดประกายให้ภาคธุรกิจและหน่วยงานของรัฐเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมต่อสังคมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นทุกคดีที่มีการร้องขอมาจากประชาชนเป็นทุกคดีที่ตนให้ความสำคัญเท่ากันหมด
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวด้วยว่า ทุกคดีที่ฟ้องไม่ว่าจะกี่คดีสามารถรวบรวมพยานข้อมูลหลักฐาน และข้อกฎหมายมานำเสนอต่อศาลได้พิจารณาอย่างท่องแท้ซึ่งเป็นข้อมูลข้อเท็จจริง ที่จะนำมาชี้ให้ศาลเห็นถึงผลกระทบ ดังนั้นคำพิพากษาหรือคำตัดสินจะเป็นที่พอใจของส่วนร่วมได้ในทุกคดี
“อะไรก็แล้วแต่ส่งผลกระทบต่อมวลชลต่อสาธารณะชน สังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม สิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน การเมืองการปกครอง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและชาวบ้านร้องขอให้ทำ ในฐานที่เป็นนักกฎหมายต้องทำได้ทุกอย่างและยินดีช่วยชาวบ้านอย่างเต็มที่” นายศรีสุวรรณ กล่าว