จับตายเวทีน้ำ 3.5 แสนล. ‘หาญณรงค์’ ชี้รัฐสนใจแต่สถิติมากกว่าข้อมูลวิชาการ
ถกเวทีจับตาย...ปาหี่เวทีน้ำ 3.5 แสนล. ‘หาญณรงค์’ ชี้รัฐบิดเบือนข้อมูล สนใจแต่สถิติผู้รับฟังมากกว่าข้อมูลทางวิชาการ ระบุหากศาลไม่สั่งระงับโครงการมีสิทธิประเทศเสียหาย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ กล่าวในเวทีเสวนา ‘จับตาย...ปาหี่โครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน’ ต่อกรณีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุกทกภัย (กบอ.) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน 36+41จังหวัด ตามคำพิพากษาของศาลปกครองที่ให้จัดรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึงก่อนเริ่มโครงการว่า การจัดเวทีที่ผ่านมานั้น มีเนื้อหาสาระไม่ไปตามที่ศาลปกครองกลางพิพากษาไว้ ซึ่งเวทีที่จ.ลำพูน เครือข่ายลุ่มน้ำภาคเหนือได้ออกแถลงการณ์ชัดเจนแล้วว่า เวทีรับฟังความเห็นได้เชิญคนที่มิใช่กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมเวที และการให้ข้อมูลแก่ผู้เข้าร่วมประชุมจะได้เฉพาะผู้ลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ส่วนคนที่ประสงค์เข้ามารับฟัง แต่มิได้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ ซึ่งหากต้องการจริง ๆ จะต้องไปเอาเองที่บอร์ดนิทรรศการ
“การรับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการน้ำที่บอร์ดนิทรรศการได้นั้นจะต้องกรอกแบบสอบถามก่อนที่จะรับข้อมูล” ประธานมูลนิธิฯ กล่าว และว่า ชาวบ้านจะกรอกข้อมูลก่อนได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการน้ำเลย ที่สำคัญ กว่าจะได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะต้องผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ก่อน
นายหาญณรงค์ กล่าวอีกว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียงวันเดียวไม่ถือว่า เป็นการรับฟังอย่างทั่วถึง ทั้งที่ความจริงแล้วในความหมายของคำว่า ‘การรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง’ ขั้นตอนแรกผู้รับฟังจะต้องได้รับข้อมูลที่ตรงกันก่อน แต่วันนี้กลับไม่ได้รับข้อมูลเลย เพราะผู้จัดมิได้สนใจเนื้อหา แต่จะสนใจเฉพาะพิธีกรรมการลงทะเบียน เบี้ยประชุม อาหาร และการสกัดกั้นชาวบ้าน
“ชาวบ้านอยากรู้ว่า ข้อมูลที่แท้จริงคืออะไร แต่ปรากฏว่าอาจารย์ที่ไปนั่งรับฟังนั้นถูกคำสั่งห้ามตอบ ซึ่งน่าจะเป็นคำสั่งของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธาน กบอ.” ประธานมูลนิธิฯ กล่าว และระบุอีกว่า ที่น่าสังเกต คือ คณะกรรมการให้ข้อมูลที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.)สวนดุสิต จัดนั้น เริ่มอบรมในวันที่ 10-11 ตุลาคม 2556 ก่อนวันเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียง 4 วัน (15 ตุลาคม 2556) และจะถูกจำกัดไม่ให้พูดนอกประเด็น แต่ให้รับฟังอย่างเดียว
นายหาญณรงค์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยการนำรายการเวทีรับฟังถ่ายทอดออกเฉพาะสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ อีกวันหนึ่ง โดยการตัดภาพถ่ายทอดช่วงคนคัดค้านโครงการน้ำออกหมด ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้ศาลเชื่อข้อเท็จจริงตามที่รัฐบาลระบุ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ต้องการมีเพียงสถิติการรับฟังเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่ระหว่างนี้รัฐบาลจะให้สัมภาษณ์ตลอดว่าเมื่อเวทีรับฟังจบลงจะเริ่มทำสัญญาทันที จึงทำให้ไว้ใจไม่ได้ ซึ่งหากศาลไม่สั่งระงับจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยและประชาชนในพื้นที่ .
ภาพประกอบ:ไทยพับลิก้า