“รัฐบาล” ตั้งข้อหากบฏ“สุเทพ”-โทษหนักประหารชีวิต!!
“รัฐบาล” ตั้งข้อหากบฏให้ “สุเทพ” แล้ว โทษหนักจำคุกตลอดชีวิต โต้ไม่ให้ขรก.หยุดงาน 2 ธ.ค. ยันรบ.ไม่เคยพูดไม่รับอำนาจศาลรธน. โบ้ยออกพ.ร.บ.นิรโทษฯไม่เกี่ยวส.ส.ทำกันเอง สั่งเร่งสอบเหตุการณ์หน้ารามคำแหง โยนมือที่สามก่อเหตุป่วน สั่งห้ามออกจากเคหะสถาน 22.00 น. ถึง 05.00 น
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 เวลา 19.00 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. นั้น นายสุเทพเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในคดีกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและบุกรุกสถานที่ราชการ และในปัจจุบันได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และบังคับให้ถ่ายทอดรายการตามความต้องการของตน นอกจากนี้ ได้ใช้กำลังประทุษร้ายเข้ายึดหรือพยายามเข้ายึดสถานีราชการ
พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อว่า ในฐานะได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ขอเรียนว่าที่นายสุเทพแถลงว่ารัฐบาลไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขที่มาของ ส.ว. ขอแจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลไม่เคยมีแถลงการณ์ หรือมีการแสดงใดๆ ที่เป็นการไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของพรรคการเมืองไม่ใช่รัฐบาล
“ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ใช่ร่างของคณะรัฐมนตรี แต่เป็นร่างของ ส.ส. ซึ่งเป็นอำนาจนิติบัญญัติแยกออกจากอำนาจฝ่ายบริหาร และขณะนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแน่นอนแล้วว่า วุฒิสภาไม่รับหลักการร่างฉบับนี้ และ ส.ส. ก็ไม่สนับสนุนร่างฉบับนี้ต่อไป ถือได้ว่าร่างฉบับนี้ตกไป ไม่มีโอกาสบังคับใช้แน่นอนแล้ว” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อว่า การที่นายสุเทพบอกว่าให้วันที่ 2 ธันวาคม เป็นวันหยุดงาน ขอยืนยันว่าในวันที่ 2 ธันวาคม หน่วยงานราชการจะเปิดทำการตามปกติ และกรณีที่ขอให้สื่อโทรทัศน์เลิกการนำเสนอข่าวของรัฐบาล โดยให้มานำเสนอเหตุการณ์ของการชุมนุมนั้น นายสุเทพไม่มีอำนาจรัฐตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ที่จะสั่งให้สื่อโทรทัศน์หยุดการนำเสนอข่าวของรัฐบาลได้
พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อว่า การที่นายสุเทพ อ้างการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิมาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญ วิธีการของนายสุเทพและแกนนำบุคคลอื่นได้นำมวลชนเข้าหรือพยายามเข้ายึดสถานที่ราชการ สถานีโทรทัศน์ หรือสถานที่ของรัฐอื่นใด มิได้เป็นไปโดยสันติวิธี มีการใช้กำลังพยายามพังพนังกั้นที่ทำด้วยปูน มีการขว้างระเบิดปิงปองเข้าไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัย และรัฐบาลชุดนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
“รัฐบาลไม่ได้กระทำการใดเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในทางตรงกันข้าม การดำเนินการที่กล่าวมาของนายสุเทพ ที่ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร หรือให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ เป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบความผิดการเป็นกบฎมาตรา 113 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีความรุนแรงที่ถนนรามคำแหงและสนามราชมังคลากีฬาสถาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนขยายผลในการเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด เชื่อว่าจะสามารถขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้บงการและผู้กระทำความผิดในไม่ช้า ขณะนี้ตำรวจได้แจ้งให้ทราบแล้วว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีฝ่าย นปช. 2 ราย และฝ่ายผู้ชุมนุม 1 ราย
จากสถานการณ์ที่มีความรุนแรงในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น จากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรองและหน่วยงานความมั่นคงพบว่ามีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่สามที่พยายามใช้สถานการณ์ดังกล่าวก่อความไม่สงบ โดยเชื่อว่าอาจมีการกระทำที่รุนแรงและอาจมีการใช้อาวุธที่เป็นอันตรายต่อประชาชนและผู้ชุมนุม โดยมีสวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาล และเพื่อเป็นการยกระดับสถานการณ์ ดังนั้น หลังเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. ของวันใหม่หากไม่มีความจำเป็นขอให้พี่น้องประชาชนไม่ควรออกนอกเคหะสถาน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและไม่ตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่สามดังกล่าว” พล.ต.อ.ประชา กล่าว