สมเกียรติ อ่อนวิมล: ความกลุ้มใจของ"ยิ่งลักษณ์"ต่อพี่ชายชื่อ"ทักษิณ"
"..ผมเห็นว่าประเทศไทยของผมและของทุกท่านกำลังเกิดความรุนแรงรุนแรง จึงพยายามวิงวอนร้องขอสันติจากมวลมหาประชาชน และขอการตัดสินใจเพื่อสันติจากคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีอำนาจและหน้าที่ในการตัดสินใจ และ ต้องตัดสินใจอย่างฉับพลัน!.."
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง ได้เผยแพร่บทความ เรื่องขอสันติ ความสงบสุข ความเจริญ งดงาม ยั่งยืนจงบังเกิดแก่ ราชอาณาจักรไทย ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า "สมเกียรติ อ่อนวิมล"
โดยมีเนื้อหาดังนี้
ผมเห็นว่าประเทศไทยของผมและของทุกท่านกำลังเกิดความรุนแรง จึงพยายามวิงวอนร้องขอสันติจากมวลมหาประชาชน และขอการตัดสินใจเพื่อสันติจากคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีอำนาจและหน้าที่ในการตัดสินใจ และ ต้องตัดสินใจอย่างฉับพลัน!
ผมทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พฤศจิกายน 2556) คุณยิ่งลักษณ์ ขอใช้เวลาคิดอีกคืนหนึ่ง เพื่อการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดครั้งสุดท้ายในชีวิต ผมคาดว่าเธอคงจะแถลงให้ประชาชนได้ทราบในวันนี้
ผมไม่ทราบอนาคตและแนวคิดตัดสินใจของคุณยิ่งลักษณ์ แต่เธอก็เป็นมนุษย์เสมอเหมือนผมและพวกเราทุกคน ผมทราบว่าเธอกลัดกลุ้มใจกับความรุนแรงของคุณทักษิณพี่ชายของเธอมาก และเธอก็มิได้เห็นพ้องกับคุณทักษิณไปทุกเรื่อง เพียงแต่ผมมิอาจทราบว่าที่เห็นด้วยไม่เห็นด้วยกันนั้นมีเรื่องอะไรอย่างไรบ้าง
และผมก็รู้ว่าเธอตื่นตระหนกต่อสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดอยู่ในเวลานี้มาก
ผมอยากเห็นคุณยิ่งลักษณ์ปฏิเสธคุณทักษิณให้หมดทุกเรื่องโดยสิ้นเชิง แล้วใช้สมาธิ เพ่งมองดูเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์อิสระของตนเอง คำนึงถึงสันติภาพ คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะฝ่ายมวลมหาประชาชนที่กำลังต่อต้านเธอทั้งด้วยเหตุผลที่ถูกต้องชอบธรรม และด้วยอารมณ์ที่รุนแรงถึงขนาดผรุสวาทต่อเธอด้วยใจร้ายรุนแรงทุกวัน
ดูจากหลักคิดของกลุ่มผู้นำมวลมหาประชาชน กปปส. คือ สุเทพ-จำลอง-สันติอโศก-พุทธอิสระ-สนธิ-สุริยะใส-พันธมิตรฯ ล้วนเป็นคนนิยมความรุนแรงและหาโอกาสใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือไปสู่ชัยชนะทั้งสิ้น จะทำอะไรหรือเอาอะไรก็ได้เป็นเครื่องมือ อหิงสาก็ได้ หิงสาก็ได้ พูดดีก็ได้ พูดร้ายก็ทำ แล้วแต่ความสะดวก แล้วแต่จังหวะเวลาและโอกาส เมื่อมาเผชิญหน้าคุณทักษิณ ซึ่งก็เป็นคนประเภทเดียวกัน คนเหล่านี้ล้วนเป็น Machiavellians แบบสมบูรณ์ทั้งสิ้น เขารู้จักกันลึกมาก เขาเป็นเพื่อนสนิทกันด้วยซ้ำ จึงรู้ทางกัน เดินแผนยุทธศาสตร์การเผชิญหน้าใช้ตำรา Machiavelli’s The Prince เล่มเดียวกัน เพียงแต่ยืม Thoreau, Gandhi, Rawls, และ และคำแนะนำจากสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเครื่องมือเฉพาะกิจเท่านั้น
ทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อ จนสันติอหิงสาอ่อนเพลีย
มวลชนไม่รู้เรื่องลึก จะหมดความอดทน จึงเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้นทีละขั้น ทีละตอน ทีละวัน และเลื่อนเส้นตาย ขยายวันแห่งชัยชนะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่จะได้ชัยชนะแท้จริง จึงพบว่าวันแห่งชัยชนะเริ่มที่วันที่ 24 เปลี่ยนเป็นสิ้นเดือน คือ 30 พฤศจิกายน และมาเป็นวันที่ 1 ธันวาคม ในตอนนี้ เมื่อเอาคำประกาศและแผนปฏิบัติการโดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ผมมองเห็นชัดเจนว่าจะเป็นการนำไปสู่ความรุนแรงที่มากขึ้น
แม้ที่ทำอยู่ก็ถือเป็นความรุนแรงแล้ว หากมองด้วยหลักอหิงสา
คณะผู้นำ กปปส. ใช้วาทกรรมซ้ำหลายครั้งว่า “ไม่ให้เสียของ” หมายความว่า เมื่อได้มวลชนทรงพลังมหาศาลแล้วก็ต้องใช้พลัง “มวลมหาประาชน” ให้บรรลุเป้าหมายสุดท้าย จะได้ “ไม่เสียของ” นี่คือทางไปสู่ความรุนแรงที่กลุ่มผู้นำมวลชนมิได้คิดจะหลีกเลี่ยง
การอ้างแนวาทงสันติวิธีตามคำแนะนำของอาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ แห่งสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ว่าเป็นแนวทางสันติวิธีที่ถูกต้องแล้ว และว่า การกระจายกำลังมวลชนบุกยึดอาคารสถานที่ราชการทั่วนครหลวงและทั่วประเทศ เป็นแนวทางสันติวิธีที่ทำได้ แม้นักบวชที่อิตาลีก็ทำ และทำสำเร็จเมื่อ1,628 ปีที่แล้วนั้น
ที่แท้จริงคำแนะนำทางวิชาการจากสถาบันฯสันติศึกษา เป็นเพียงสันติวิธีแบบตะวันตกทางหนึ่ง มิใช่ทางเดียว และมิใช่อหิงสาแบบตะวันออก หากอธิบายตามแนวคิดของมหาตมะ คานธี ถือว่าสันติวิธีตะวันตกเป็นวิธีของผู้อ่อนแอ ปราศจากเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แทนที่จะทำให้ตัวเองต้องเป็นผู้รับทุกข์ กลับไปทำให้เกิดทุกข์กับผู้อื่น
สันติวิธีแบบตะวันตก
แม้จะเป็นวิธีการที่อาจนำไปสู่ความสำเร็จได้
แต่ก็เป็นหนทางไปสู่ความรุนแรงที่อาจหลีกเลี่ยงมิได้
เมื่อมวลมหาประชาชนเลือกสันติวิธีแบบตะวันตกชัดเจน
การพูดถึงอหิงสา จึงเป็นการพูดที่ไร้ความหมาย ขาดความเข้าใจ
และพูดเอาตามสะดวก
ผมจึงห่วงว่า “อหิงสา” จะเสียของคราวนี้
ขอให้มวลชนมหาประชาชนให้เวลากับตัวเองให้มากในสองวันนี้
คิดตัดสินใจให้ถูกต้องเหมาะสม แล้วให้การตัดสินใจที่ดีเป็นเครื่องนำทางชีวิต
และยอมรับผลของการตัดสินใจของตน
แม้ผมจะสนับสนุนมวลมหาประชาชน
แต่ผมก็สนับสนุนประชาธิปไตยที่ถูกต้องสมบูรณ์ ที่ต้องใช้เวลาอีกนาน
และผมยึดมั่นในสันติวิธีอย่างเคร่งครัดสมบูรณ์ไม่เสื่อมคลาย
ขอให้คุณยิ่งลักษณ์ใช้สามัญสำนึกแห่งความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันกับทุกคน
ขอให้คุณยิ่งลักษณ์เป็นอิสระจากความผูกพันส่วนตัวกับพี่ชายและครอบครัว
เพราะคุณยิ่งลักษณ์เป็นผู้มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เท่ากับประชาชนชาวไทยทุกคน
ขอให้ตัดสินใจเพื่อให้สังคมไทยมีสันติ สงบร่มเย็น งดงาม
จะได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างราชอาณาจักรไทยให้ก้าวหน้าพัฒนายั่งยืนสง่างาม
เป็นแบบอย่างที่ดีของโลก
ขอให้ฯพณฯนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชันวัตร ตัดสินใจเพื่อศักดิ์ศรีของความเป็นไทย
สมเกียรติ อ่อนวิมล
30 พฤศจิกายน 2556
ภาพประกอบจากsanook