ปิดซักฟอก “ยิ่งลักษณ์” ติง ปชป.จินตนาการปมโกง
“ยิ่งลักษณ์” ขอบคุณ สส.ใช้สภาตรวจสอบรัฐบาล ติงฝ่ายค้านจินตนาการกล่าวหาทุจริต ปัดลอยตัวหนีปัญหา ด้าน “จุรินทร์” กล่าวปิดซักฟอก อัดนายกฯ สอบตก เลี่ยงถูกตรวจสอบ นัดลงมติเช้า 28 พ.ย.
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2556 เวลา 21.45 น. ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ถือเป็นวันสำคัญที่รัฐสภาได้ตรวจสอบฝ่ายบริหาร จึงขอขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ทำงานอย่างทุ่มเท ชื่อว่าตนได้ชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิกไปแล้ว แต่อาจมีบางประเด็นที่พาดพิงไปยังบุคคลที่ 3 จึงเป็นที่มาของการขอให้ยื่นเอกสารถอดถอนมาให้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกฝ่ายที่อดกลั้นให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี ยืนยันว่าการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปไม่ได้ที่นายกฯ จะลอยตัวได้ เห็นเกิดได้จากวิกฤตหลายๆ ครั้งที่ตนลงไปแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ถึงตอนนี้ตนเดินทางไปถึง 58 จังหวัดแล้ว ไม่รวมถึงการเดินทางไปพบปะผู้นำต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้การตัดสินใจเช่นกัน
“ยืนยันว่าไม่ได้ลอยตัวเหนือปัญหา แต่รัฐบาลชุดนี้ เน้นการทำงานแบบคณะบุคคล ซึ่งต้องเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญแสดงความสามารถอย่างเต็มที่” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า แม้หลายประเด็นที่สมาชิกอภิปรายจะเป็นเรื่องส่วนตัวประกอบกับจินตนาการ ซึ่งต้องขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา เช่นการวางแผนให้มีการทุจิต ยืนยันว่าทำงานอย่างเข้มงวดทำตามข้อเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการป้องกันการุทุจริต และหากพบว่าขั้นตอนต่างๆ มีปัญหาก็จะลงโทษผู้กระทำผิด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คิดนโยบายจะทำผิดเสียเอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน ที่การจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปตามระเบียนพัสดุอย่างเคร่งครัด ที่บอกว่าหลอกคนหนองคาย เพราะไม่มีรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย ความจริงมีอยู่ในแผน ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ก็ไม่เคยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ยืนยันว่าได้มีการวางระบบตรวจสอบที่ดี และจะใช้ระเบียบบริหารราชการอย่างเคร่งครัด ขณะที่โครงการรับจำนำข้าว ยืนยันว่าเป็นนโยบายที่ดี มีเจตนาจะยกระดับรายได้เกษตรกร ในระดับนโยบายไม่มีการทุจริตอย่างที่หลายท่านจินตนาการ แต่ในระดับปฏิบัติการ จะให้ตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ถ้าพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง
“ขอขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ร่วมกันให้การอภิปรายวันนี้ผ่านไปอย่างสร้างสรรค์ ข้อเสนอต่างๆ ก็จะรับไปใช้ประโยชน์สำหรับการบริหารประเทศต่อไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า สิ่งที่พวกตนอภิปรายไม่ใช่จินตนาการแต่มีหลักฐานและตัวเลขยืนยันชัดเจน ถ้าหมายถึงจินตนาการคือที่มีการระบุว่าจะมีรถไฟความเร็วสูงจาก กทม.ไปถึง จ.หนองคาย ทั้งที่จริงๆ ถึงแค่ จ.นครราชสีมา
จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย มีใจความว่า เหตุที่ต้องอภิปรายนายกฯ เพราะสภาพการณ์เวลานี้ มีนายกฯ ก็เกือบพูดได้ว่าไม่มี หรือถ้าจะมีก็เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือมีทั้งนายกฯ ถึง 3 คน คนที่ 1 อยู่ต้นน้ำ คอยกดปุ่มสั่งการจากเมืองนอก คนที่ 2 อยู่กลางน้ำ ชอบตีกรรเชียงหนีความรับผิดชอบ และคนที่ 3 อยู่ปลายน้ำ คอยอ้าปากรับน้ำจนอ้วนเอาๆ ทั้งที่คนไทยส่วนใหญ่ผอมลง
นายจุรินทร์ยังกล่าวว่า คุณสมบัติที่นายกฯ ควรมี 3 ประการในการบริหารราชการแผ่นดิน 1.รับผิดชอบต่อประชาชน ในสิ่งที่เคยหาเสียงไว้ 2.รับผิดชอบต่อสภา เพราะนายกฯ มาจากสภา จึงควรแถลงผลงานต่อสภา อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และจะต้องตรวจสอบได้ทั้งผ่านกระทู้ถามสดหรือผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และ 3.รับผิดชอบต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยจะต้องปฏิบัติภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมถึงประมวลจริยธรรม
“นายกฯ ยิ่งลักษณ์เคยประกาศไว้วันแถลงนโยบายว่า การทำงานก็เหมือนทำข้อสอบ คงไม่มีใครทำถูก 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มั่นใจว่าจะสอบผ่านทุกวิชา อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายกฯ เกือบจะเรียกได้ว่าสอบไม่ผ่านสักวิชา โดยเฉพาะวิชาสภา ที่นายกฯ สอบตกเพราะไม่ยอมเข้าห้องสภา ไม่ตอบกระทู้ถามสด 2 ปีมาตอบเพียง 2 กระทู้ ไม่มาร่วมพิจารณากฎหมายสำคัญ แม้กระทั่งร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน นอกจากนี้ ยังสอบตกเรื่องวิชาการบริหารราชการแผ่นดินโดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบต่อประชาชน” นายจุรินทร์กล่าว
หลังจากนั้น ประธานวิปฝ่ายค้านก็พูดถึงพฤติกรรมต่างๆ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายจารุพงศ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเน้นไปที่การปล่อยให้มีการทุจริต ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
“การลงมติวันพรุ่งนี้ พวกผมรู้ดีว่าเป็นฝ่ายแพ้แน่นอน แต่ก็ไม่ได้แปลว่านายกฯ เป็นฝ่ายชนะ และแม้นายกฯ อาจจะหนีสภาได้ แต่คงจะหนีกฎแห่งกรรมไปไม่ได้อย่างแน่นอน” นายจุรินทร์กล่าว
เมื่อนายจุรินทร์กล่าวจบ นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานในที่ประชุม จึงนัดลงมติในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09.30 น. ก่อนจะสั่งปิดประชุม