“ยิ่งลักษณ์” ประกาศขยายพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคง เป็น 4 จังหวัด
“ยิ่งลักษณ์” ประกาศขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็น 4 จังหวัด หลังม็อบยึดสถานที่ราชการ วอนประชาชนอย่าเชื่อข่าวลือ-สนันสนุนการชุมนุมผิด กม. ยันรัฐบาลพร้อมฟังเสียงคนทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา 21.35 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) ถึงสถานการณ์การชุมนุม มีใจความโดยสรุปว่า จากกรณีที่มีผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงบประมาณโดยใช้กำลังทำลายประตูรั้ว พร้อมตัดน้ำตัดไฟ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้างสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาทรัพย์สินของทางราชการ การดำรงชีวิตโดยปกติสุข ความปลอดภัยของประชาชน และการคุ้มครองความสงบเรียบร้อย รวมถึงประโยชน์ของส่วนรวม รัฐบาลจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะบังคับประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่ กทม. ทั้ง 50 เขต จ.นนทบุรี ทุกอำเภอ จ.สมุทรปราการ เฉพาะ อ.บางพลี และ จ.ปทุมธานี เฉพาะ อ.ลาดหลุมแก้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนโดยเด็ดขาด โดยจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และอย่าหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ โดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการเพื่อรักษากฎหมายให้สถานการณ์ต่างๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และขอเรียกร้องฝ่ายที่เห็นต่างให้ใช้กระบวนการรัฐสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์ในการหารือและรับฟังความเห็นอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสงบสุขและสมานฉันท์ของคนในชาติ
ด้าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การประกาศขยายพื้นที่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะมีผลไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เฉพาะ กทม. ใน 3 เขต ได้แก่ดุสิต พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย และจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 เท่านั้น
"สุเทพ"ปลุกชาวบ้านบุกศาลากลาง-ที่ว่าการอำเภอ
ต่อมา เวลา 22.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำผู้ชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและขับไล่ระบอบทักษิณ ก็ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีกระทรวงการคลังทันที ตอนหนึ่งว่า เมื่อรัฐบาลชุดนี้ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เท่ากับปฏิเสธรัฐธรรมนูญ จึงถือว่าเป็นรัฐบาลที่โมฆะแล้ว ไม่สามารถบริหารประเทศได้ต่อไปอีกแล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องฟังรัฐบาล ข้าราชการก็ไม่จำเป็นต้องฟังรัฐบาลโมฆะนี้ต่อไป
“เมื่อเราไม่มีเวลาต่อสู้ทั้งปีทั้งชาติ เราจึงต้องกำจัดระบอบทักษิณ ภายใน 3 วัน ซึ่งเพราะความจำเป็นเช่นนี้ ทำให้มวลมหาประชาชนมายึดกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ เพื่อไม่ให้มีการนำเงินไปบำรุงบำเรอระบอบทักษิณอีกต่อไป โดยตัดสินใจจะใช้เป็นสถานที่ชุมนุมอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งการเข้ามายังสถานที่ราชการทั้ง 2 แห่งนี้ ไม่มีการทำลายทรัพย์สินราชการ กระจกแม้แต่แผ่นเดียวก็ไม่เสียหาย นอกจากนี้ เราก็ไม่ได้เข้าไปขึ้นไปบนอาคาร ดังนั้นอย่าให้ใครใส่ร้ายว่าเราบุกรุกสถานที่ราชการ เพราะเรามาแค่สนามหญ้าเท่านั้น” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า พี่น้องในต่างจังหวัด สามารถทำได้แบบเดียวกับที่กระทรวงการคลัง ไปที่ศาลากลางจังหวัดและที่ว่าการอำเภอ นำดอกไม้ไปให้แล้วบอกว่าอย่าเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณอีกต่อไป เพราะประชาชน ทนไม่ไหวแล้ว ถ้าวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 พวกเราทำแบบนี้ทั่วประเทศ รัฐบาลในระบอบทักษิณก็จะหมดอำนาจโดยสิ้นเชิง
นายสุเทพ กล่าวว่า หลังจากนายกฯ ประกาศขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไปยัง กทม.และปริมณฑล ต่อไปเขาจะสั่งให้เราเลิกชุมนุม และสั่งให้เราออกจากสถานที่ราชการ ถ้าเราไม่ออกเขาจะไปยื่นฟ้องศาลบังคับให้เราออก ตนเห็นด้วยถ้าพี่น้องไม่เชื่อ เพราะรัฐบาลนี้ก็ไม่เชื่อศาล แล้วจะมาบังคับให้เราเชื่อได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังได้ข่าวเขาไปขอหมายมาจับตนข้อหากบฏ ถ้าใครไม่อยากเดือดร้อน ก็ให้เก็บกระเป๋าออกไปจากที่นี่ ตนจะทำตามมวลมหาประชาชน ถ้าเห็นว่าเราควรเป็นข้าทาสในระบอบทักษิณต่อไป ตนก็จะยอมไปมอบตัวและถูกลงโทษ ไม่หนีไปเมืองนอกอย่างเด็ดขาด
"หลังจากนี้จะมีการปล่อยข่าวว่าการชุมนุมของเรามีอาวุธ เรายอมให้หน่วยงานที่เป็นกลาง เช่นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เข้ามาตรวจสอบ ถ้ามีว่าอาวุธจริง พวกเราจะยอมเลย" นายสุเทพกล่าว