“หม่อมอุ๋ย”ย้ำหมุดจำนำข้าว“นอมินี”ฮุบ9หมื่นล.?-จี้"ยิ่งลักษณ์"ตอบคำถาม
"หม่อมอุ๋ย" คาดตัวเลขรับจำนำข้าว 27 ล้านตัน ส่อขาดทุน 4 แสนล้านบาท เผยข้อมูล “คนใน” กระทรวงพาณิชย์ระบุ มีนอมินีผูกขาดการส่งออกข้าว ทำสูญ 9 หมื่นกว่าล้าน-จี้ "ยิ่งลักษณ"ตอบคำถามสังคมเงินหายเข้ากระเป๋าใคร?
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำถึงปัญหาการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลอีกครั้ง บนเวทีเสวนาธรรมศาสตร์อภิวัฒน์ประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า นโยบายประชานิยมที่เลวร้ายที่สุดที่ตนเคยเห็นมาในชีวิตนี้และในโลกนี้ คือเรื่องจำนำข้าวเนื่องจากรัฐบาลไทยจำนำสูงกว่าราคาตลาดโลกอย่างมาก และเปิดช่องว่างให้มีผู้มาแสวงหาผลประโยชน์หลังชาวนาเต็มไปหมด
“ชาวนาได้น้อยกว่าราคาที่รัฐจ่าย มีคนแบ่งกันกินเยอะ เป็นบุฟเฟต์ ได้กันหลายคน แต่เวลาขายออกนี่ขายออกต่ำกว่าราคาตลาดโลกมาก น้อยว่า 9 หมื่นล้านบาท ขาเข้ากินกันเป็นบุฟเฟต์ แต่ขาออกกินรายเดียว” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรระบุ ก่อนกล่าวเพิ่มเติมว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่ตนทราบข้อมูลมาคือรัฐบาลรับจำนำข้าวไปแล้ว 44.45 ล้านเกวียน ซึ่งนำมาแปรเป็นข้าวสารได้ 27.02 ล้านตัน หรือประมาณ 27 ล้านตัน
“ตัวเลขจริงที่ธกส. ( ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ) จ่ายไปในการซื้อข้าว 44.45 ล้านตัน คือ 683,000 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเช่น ค่าสีข้าว ค่าตรวจข้าว ขนส่ง เก็บ ค่าดอกเบี้ย 89,500 ล้านบาท ผมได้ตัวเลขเหล่านี้มาจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อนำค่าดำเนินการต่างๆ กับราคาซื้อข้าวมาบวกกัน คือตัวเลข 683,000 ล้านบาท กับ 89,500 ล้านบาท เท่ากับ 772,500 ล้านบาท เมื่อเอา 27 ล้านตันไปหารแปลว่า ข้าวสาร 1 ตัน ราคาตันละ 28,600 บาท นี่ผมได้ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์นะครับ คนรักชาติในกระทรวงพาณิชย์ยังมีอีกเยอะ”
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุด้วยว่า ตอนนี้ ข้าวที่รับจำนำจาก 27 ล้านตัน ขายไปแล้วประมาณ 12 ล้านตันเศษ ได้เงินมาแล้ว 141,000 ล้านบาท
“หากนำต้นทุนข้าว 12 ล้านตัน คูณด้วย 28,600 ตัวเลขออกมา 343,200 ล้านบาท แปลว่าเฉพาะ 12 ล้านตัน ขาดทุนไปแล้วกว่า 201,600 ล้านบาท แล้วผมบอกว่าขาดทุนแสนล้านบาท แต่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์บอกว่าข้าวเพิ่งขายไปได้ส่วนเดียว เขาหลอกประชาชนว่าขาดทุนไม่ถึงแสนล้าน ทั้งที่คิดง่ายๆ ก็ขาดทุนไปแล้วสองแสนล้านบาท”
“แม้แต่อีก 15 ล้านตันที่เหลือ หากตั้งสมมติฐานให้ขายได้อย่างน้อยเท่าราคาเดิมที่รัฐบาลเคยขายได้ คือ 11,700 บาทต่อ 12 ล้านตัน ก็จะได้เงินมาอีกสองแสนห้าหมื่นกว่าล้าน รวมแล้ว 27 ล้านตัน ตัวเลขขาดทุนประเมินว่า 456,000 ล้านบาท แต่ที่ขาดทุนแน่นอนแล้ว 200,000 ล้านบาท แล้วราคาข้าวที่ขายไปคุณรู้ไหมว่า ทำไมถึงเป็น 11,700 บาทต่อตัน เพราะคราวนี้ รัฐบาลทราบหรือเปล่าไม่รู้ แต่มีผู้ส่งออหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาหนึ่งราย ผู้ส่งออกหน้าใหม่รายนี้เพิ่งเข้ามาค้าขาย ครั้งแรกเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และปรากฏว่าการที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวออก ส่วนใหญ่ขายผ่านรายนี้ เขาขายได้เฉลี่ย 11,700 บาทต่อตัน หรือกิโลกรัมละ 11 บาท 70 สตางค์”
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวย้ำด้วยว่าในอดีตผู้ส่งออกทั้งประเทศ ปกติขายข้าวตันละ 20,000-21,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 20-21 บาท เมื่อตนลองนำราคาตลาดมาเทียบตลอด 20 เดือนที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ต้นปี 2555-สิงหาคม 2556 พบว่าข้าวหอมมะลิ ขายในราคาเฉลี่ยตันละ 30,000 บาท ข้าวเจ้าทั่วไป เฉลี่ยตันละ 17,500 บาท หากรัฐบาลขายข้าวจำนวน 12 ล้านตันนี้ เป็นข้าวหอมมะลิ 2 ล้านตัน และข้าวเจ้าปรกติอีก 10 ล้านตัน จะได้ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 19 บาท
“ใครก็ขายได้ 19 บาท แต่ทำไมผู้ส่งออกรายใหม่ที่ใครตั้งขึ้นไม่รู้ ทำไมขายได้กิโลกรัมละ 11 บาท 70 สตางค์ หรือตันละ 11,700 บาท นำเอาตัวเลข 19,250 บาทของราคาทั่วไปมาลบกัน ข้อแตกต่างคือ 7 บาท 55 สตางค์ ต่อกิโลกรัม นำตัวเลขนี้ไปคูณ 12 ล้านตัน ตัวเลขที่ได้คือเก้าหมื่นกว่าล้านบาท” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรระบุ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ทำไมต้องมีการตั้งบริษัทส่งออกข้าวรายใหม่นี้ขึ้นมา ทำให้ขาดทุน 9 หมื่นกว่าล้านบาท และคำถามสำคัญคือเงิน 9 หมื่นกว่าล้านบาทนี้อยู่ที่ไหน
“เป็นหน้าที่ของนายกฯ ต้องตอบ และตัวเลขที่โจ่งแจ้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ต้องตอบ ถ้ารัฐบาลยังดื้อรับจำนำข้าวต่อไปจนครบ 7 ปี ในปี 2562 หนี้สาธารณะจะสูงเกินขึ้น 65 % การจำนำข้าวในอดีตขาดทุนหมื่นล้านบาทแต่ปัจจุบันกล้าทำจนขาดทุนเป็นแสนล้านบาทต่อปี ชาวนาได้ไม่ถึงครึ่ง อีกครึ่งอยู่ที่ไหน ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
ภาพประกอบ - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จากอินเทอร์เ้น็ต