นิด้าโพลสำรวจความเห็นทุจริตโกงการสอบ พบมากถึง 20% มองไม่ใช่เรื่องผิด
เวที ทปอ. เปิดผลการสำรวจแบบสอบถามนิสิตนักศึกษา "ทัศนคติต่อการทุจริต การโกงในการเรียน การสอบ" พบมีผู้ที่ไม่เคยทุจริตในการสอบ 83.7 % แต่มีอีก 16.3 % ที่ทุจริตสอบ ที่น่ากลัว คนทุจริตมอง ไม่ใช่เรื่องผิดมากถึง 20%
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จัดประชุมวิชาการประจำปี พ.ศ.2556 เป็นวันที่สอง ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานได้มีการนำเสนอผลการสำรวจแบบสอบถามนิสิตนักศึกษา เรื่อง "ทัศนคติของนิสิตนักศึกษาต่อการทุจริต การโกงในการเรียน การสอบ" โดยรองศาสตราจารย์ ดร.พานิตชนัต ศิริพานิชย์ จากคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ดร.พานิตชนัต กล่าวถึงวิธีเก็บข้อมูลทางออนไลน์โดยการพิจารณาข้อมูลของนักศึกษาจาก 27 มหาวิทยาลัยที่ได้ส่งข้อมูลมาให้ทั้งหมด 642,339 ราย เป็นข้อมูลที่ใช้ได้ทั้งหมด 5,654 ราย จาก 23 มหาวิทยาลัย เป็นการสอบถามถึงทัศนคติของนักศึกษาในเรื่องการทุจริตของนักศึกษาในเรื่องการสอบ การทุจริตในอาจารย์ เรื่องการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาและการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย ซึ่งการคัดเลือกผู้ตอบแบบสอบถามก็ได้กระจายไปในทุกระดับการศึกษา ทั้งนักศึกษาปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก และมีข้อสังเกตว่า ข้อมูลที่ได้มาส่วนมากจะเป็นข้อมูลจากนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย (GPA) สูง คือตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป ทั้งนี้การเก็บข้อมูลยังไม่แล้วเสร็จในทุกส่วน จึงได้ยกตัวอย่างในภาพรวมของทุกมหาวิทยาลัยเพียงเรื่องทุจริตในการศึกษาและการคอร์รัปชั่นในประเทศไทย
ดร.พานิตชนัต กล่าวถึงผลการสำรวจในเรื่องพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เรื่องการลอกการบ้าน และการให้ผู้อื่นลอกการบ้าน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่คอร์รัปชั่น พบว่า ส่วนมากจะทำเป็นครั้งคราว และส่วนใหญ่มองว่า เป็นความผิดที่เล็กน้อยไม่ร้ายแรง
ในเรื่องทุจริตในการสอบ มีผู้ที่ไม่เคยทุจริตในการสอบ 83.7 % แต่ก็ยังมีอีก 16.3 % ที่ทุจริตในการสอบ ซึ่งถือว่า เป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก และที่น่ากลัวคือคนที่ทำการทุจริตมองว่า ไม่ใช่เรื่องผิดมากถึง 20% โดยวิธีการทุจริตที่พบ คือ การลอกคำตอบ การให้เพื่อนลอกคำตอบ การจดโพย การส่งสัญญาณ การใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และการจ้างผู้อื่นทำข้อสอบ
"สำหรับการคัดลอกงานผู้อื่นโดยไม่อ้างอิงนั้นพบว่า ส่วนมากจะเป็นงาน Project และ Mini Project โดยนักศึกษามากกว่าครึ่งอ้างว่า หาแหล่งอ้างอิงไม่ได้ และอีกส่วนหนึ่งระบุว่า ลอกเพียงเล็กน้อย ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่ทราบดีว่าการลอกงานคนอื่นโดยไม่อ้างอิงเป็นความผิดที่ร้ายแรงและน่าละอายแต่ก็ยังทำ"
ด้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย ดร.พานิตชนัต กล่าวว่า พฤติกรรมที่นักศึกษาไทยทำมากที่สุด คือการไม่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมากถึง 26.1% หากเป็นการเลือกตั้งเพียงจุดเดียวจำนวนนี้อาจมีผลให้คะแนนเสียงพลิกได้เลยทีเดียว และการใช้เส้นสายในการติดต่อราชการ 22.4% หากสามารถทำให้เปอร์เซนต์การทุจริตคอร์รัปชั่นของเยาวชนไทยเหล่านี้ที่จะไปเป็นอนาคตของชาติลดลง จะทำให้ปัญหาคอร์รัปชั่นลดลงได้
"นักศึกษาส่วนมากคิดว่า การติดสินบนเจ้าพนักงานเพื่อให้ทำผิดกฎหมายหรือเพื่อให้พ้นจากโทษตามกฏหมายเป็นความผิดที่ร้ายแรง ซึ่งผลสำรวจนี้ก็พบว่า นักศึกษาไม่เกิน 5% ที่เคยติดสินบนเช่นนี้ นับว่าเป็นเปอร์เซนต์ที่มากและน่าเป็นห่วงเมื่อเทียบกับจำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทั้งหมด"