นริศร :เห็นแค่สูทไม่เห็นหน้า รู้ได้ไงว่าผมเสียบบัตรแทนส.ส.คนอื่น?
"นริศร ทองธิราช"ยันไม่เคยเสียบบัตรแทนส.ส. คนอื่น โวยปรากฎชื่อในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เคยถูกเรียกไปชี้แจง แถมไม่มีสูทเหมือนในคลิป ท้าให้ตรวจสอบ เจอแบบนี้รับไม่ได้ประกาศลั่นตัดสินใจเลิกเล่นการเมือง ปี 58
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 นายนริศร ทองธิราช สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีถูกระบุชื่อในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นผู้เสียบบัตรลงคะแนนเสียงแทน ส.ส. คนอื่น ว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย และไม่เคยถูกเรียกตัวให้ไปสอบปากคำเรื่องนี้แต่อย่างใด และก็ไม่เคยรู้เลยว่า ใครไปยื่นเรื่องร้องเรียนตน เพิ่งจะทราบจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกันว่า มีชื่อตนไปปรากฏอยู่ และก็เพิ่งรู้ว่า น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนไปยื่นเรื่อง ซึ่งโดยส่วนตัวตนกับน.ส. รังสิมาก็ไม่ได้มีอะไรกัน
เมื่อถามว่า เป็นผู้รับหน้าที่เสียบบัตรแทน ส.ส. คนอื่น ใช่หรือไม่ นายนริศร ตอบว่า “ผมไม่รู้เรื่องเลย ใครไปถ่ายอะไรกันตอนไหน ก็ไม่รู้ หน้าประตูคนมันเยอะมาก ไม่รู้ใครเป็นใคร มาถ่ายกันตอนไหนก็ไม่รู้ ”
“เขาบอกว่าเห็นเสื้อสูท แล้วก็มายืนยันว่าเป็นผม ผมถามหน่อยเถอะว่า แค่เห็นเสื้อสูท หน้าก็เห็นไม่ชัด แล้ว มาบอกว่าเป็นผมเลย มันใช้ได้ไหมกับคดีอาญา มันถูกหรือเปล่า คนใส่สูท เป็นใครก็ไม่มีใครรู้ ไม่เห็นหน้า"
เมื่อถามย้ำว่า ในวันที่มีการลงคะแนนได้ใส่สูท สีเดียวกับคนที่อยู่ในคลิปวิดีโอหรือไม่ นายนริศร ตอบว่า “ไม่มีๆๆ ไม่รู้เรื่อง เสื้อสูทสีนั้น ผมไม่มี ไม่เคยใส่”
“ก่อนหน้านี้ ตอนที่มีการนำภาพส.ส.เล่นไอแพด มาเผยแพร่ ผมก็เกือบโดนไปแล้วนะ ทุกคนคิดว่าเป็นผม โชคดี ที่ส.ส.คนหนึ่งเขาออกมารับ และเขาก็ใส่ เรทกำไลที่ข้อมือ พอดีผมไม่มี ก็เลยรอดตัวไป”
เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปยื่นต่อ ป.ป.ช. นายนริศร ตอบว่า “จะไปยื่นอะไรกับใครก็ไปเลย ผมไม่กลัว เรื่องนี้ผมสู้อยู่แล้ว”
นายนริศร ยังระบุด้วยว่า ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการลงคะแนนผ่านบัตร หลังจากที่มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ มีปัญหาเกิดขึ้นมาตลอด บางคนกดเข้าไปแล้ว คะแนนไม่ขึ้นก็มี ส่วนการเสียบบัตรแทนกัน หลายพรรคก็ทำ
“ตอนนี้ผมก็เหมือนเป็นเหยื่อ มีคนหลายคนจ้องจะเล่นงานผม แต่ผมไม่กลัวหรอก และการที่สื่อให้ความสนใจ ก็เป็นเรื่องดีเสียอีก ช่วยกันเอาไปลงข่าวให้ไม่ต้องเสียเงินจ้าง อย่างที่เขาเคยบอกไว้ ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียเงิน”
ส่วนกรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ที่ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดเครื่องจักรกล ที่ภรรยาแจ้งว่ามีรายได้จากการให้เช่าเดือนละ 50,000 บาท นั้น นายนริศร ตอบว่า เรื่องนี้ คงไม่มีปัญหาอะไรแต่รายละเอียดมันเยอะ ส่วนเรื่องเงินติดบัญชีแค่ 1 พันบาท ตอนนั้น มันมีเงินแค่นั้นจริงๆ ก็แจ้งไปตามนั้น ส่วนหนี้ที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะมีคนมาขอให้ไปคำประกันให้ ตั้งแต่ปี 2530 แล้ว
“ ภรรยาผมตอนนี้ เขาหยุดเรื่องการเมืองแล้วนะ ก่อนหน้านี้เขาเป็น อบจ.สกลนคร แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้วเขาเลิกแล้ว ส่วนตัวผมก็จะเลิกเหมือนกัน ในปี 2558 จะหยุดจะเลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว เพราะมีแต่เรื่องเสียหาย ไม่คุ้มกัน ส่วนลูกๆ ถ้าเขาอยากจะเล่น เป็นปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา ให้เขาตัดสินใจเอง”
(อ่านประกอบ:เปิดตัว ส.ส. "เสียบบัตร-ออกเสียงแทนผู้อื่น" ในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ)