"ปธ.สภา" ตั้งโต๊ะแถลง ยัน “ศาล รธน.” ไม่มีอำนาจรับคำร้องแก้รธน.
“ปธ.สภา” แถลง “ศาลรธน.” ไม่มีอำนาจรับคำร้องแก้รัฐธรรมนูญ ลั่นเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภา เชื่อศาลมีดุลยพินิจที่ดี ขีดเส้นตายให้ “ปชป.” ยื่นสำเนาคำร้องขอซักฟอกภายในวันที่ 21 พ.ย. เวลา 16.30 น. อ้างพท.ยื่นทุกครั้งในช่วงอภิปรายรบ.มาร์ค
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 เวลา 12.25 น. ที่อาคารรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรานนท์ ประธานรัฐสภา พร้อมด้วยนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานรัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานรัฐสภา แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมกับฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาใน 2 เรื่อง 1.ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยฝ่ายกฎหมายรัฐสภามีข้อสรุปว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้พิจารณา เพราะสมาชิกรัฐสภาใช้อำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยชอบธรรม ตามที่มาตรา 291 ได้กำหนดไว้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภา
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีกฎหมายฉบับไหนให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญไว้พิจารณารับคำร้องเลย ผมก็เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีดุลยพินิจที่ดี อยู่บนพื้นฐานของระบบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นายสมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ออกมาแถลงข่าวก่อนจะมีคำตัดสินเป็นการโยนแรงกดดันไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนแถลงเพื่อยืนยันผลสรุปของฝ่ายกฎหมายรัฐสภา ตนไม่ได้ก้าวล่วงไปประเด็นอื่น เพราะผลมันยังไม่เกิด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านยืนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ประชุมฝ่ายกฎหมายมีมติเอกฉันท์ว่า ฝ่ายค้านต้องยื่นสำเนาคำร้องการยื่นถอดถอนแนบพร้อมากับญัตติด้วย เพราะในอดีตช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน และได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคเพื่อไทยได้ยื่นสำเนาคำร้องถอดถอนพร้อมญัตติทุกครั้ง
“ส่วนฝ่ายค้านที่ผ่านมาได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 2 ครั้ง แต่ไม่เคยยื่นสำเนาคำร้อง ซึ่งในปี 2555 มีการทวงถามไปยังฝ่ายค้าน จนต้องนำสำเนาคำร้องมาให้ เพราะถ้าผมไม่มีสำเนาคำร้อง ผมจะไม่สามารถควบคุมการประชุมให้อยู่ในประเด็นได้เลย ประธานสภาไม่มีสิ่งที่จะมาเป็นหลักในการพิจารณาได้ หากไม่มีสำเนาคำร้อง ญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นมาก็จะเป็นญัตติที่ไม่สมบูรณ์” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตนจะให้ฝ่ายเลขาธิการรัฐสภา ทำหนังสื่อทวงถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทวงถามสำเนาคำร้องไปตามขั้นตอนภายใน 7 วัน ซึ่งฝ่ายค้านควรต้องยื่นคำร้องภายในวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. ไม่เช่นนั้นก็จะส่งผลกระทบเพราะจะปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 28 พฤศจิกายน ดังนั้นภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน จะต้องมีความชัดเจน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ทัน ทั้งนี้หากฝ่ายค้านไม่ยื่นสำเนาคำร้องมาภายในวันที่ 21 ในวันที่ 22 ก็จะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายค้านไม่ยื่นสำเนาคำร้องจะไม่เปิดอภิปรายใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น ต้องรอดูก่อน แล้วจะพิจารณากันในวันที่ 22 เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังไม่มีการบรรจุญัตติ เพื่อเทคนิคที่ทำให้อำนาจในการตัดสินใจยุบสภายังอยู่ที่นายกฯใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เล่นเทคนิคอะไร มันไม่เกี่ยวกันเลย นายกฯแถลงชัดเจนว่าไม่ยุบสภาอยู่แล้ว