“ยิ่งลักษณ์” ชี้คำตัดสินศาลโลกเป็นคุณกับไทย 4 เรื่อง
“ยิ่งลักษณ์” ชี้คำตัดสินศาลโลกเป็นคุณกับไทย 4 ประการ สั่งทีมกม.ศึกษาก่อนไปเจรจากัมพูชาต่อ ยัน รบ.จะทำทุกอย่างโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ “คนไทย-ชาติไทย”
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา 19.20 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดแถลงข่าวด่วนผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ถึงคำพิพากษาของศาลโลกในคดีขอให้ตีความคำพิพากษากรณีปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2505 ว่า คำพิพากษาของศาลโลกให้ความสำคัญกับการที่ทั้งสองประเทศต้องเจรจากัน โดยมีหลายส่วนที่เป็นคุณกับประเทศไทย 4 ประการ
1.ศาลรับฟังข้อต่อสู้ของไทย และตัดสินภายใต้ขอบเขตคำพิพากษาเดิม
2.ศาลรับฟังข้อต่อสู้ของไทย โดยยืนยันว่าคำพิพากษามิได้ตัดสินเขตแดนไทย-กัมพูชา เพราะอยู่นอกเหนือคำพิพากษาเดิม ซึ่งหมายความว่าศาลไม่รับพิจารณาข่อเรียกร้องของกัมพูชาเหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร และที่สำคัญศาลไม่ได้ตัดสินว่าแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ผูกพันกับไทย
3.ศาลรับตีความเฉพาะบริเวณพื้นที่ใกล้เตียงปราสาทตามคำพิพากษาเดิม โดยศาลอธิบายว่าเป็นพื้นที่ขนาดเล็กมาก โดยไม่ได้กำหนดเส้นเขตแดน ที่สำคัญไม่รวมพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งในส่วนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงปราสาททั้งสองประเทศต้องหารือกันต่อไปตามกลไกทวิภาคีที่มี
และ 4.ศาลแนะนำให้ทั้งสองประเทศร่วมกันอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารในฐานะมรดกโลก
“รัฐบาลได้สั่งให้คณะที่ปรึกษากฎหมายไปศึกษาคำพิพากษาเพื่อประกอบการดำเนินการต่อไป โดยหลังจากนั้น ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องหารือกันภายใต้กลไกร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศเพื่อให้ได้ข้อยุติสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย โดยคำนึงถึงขั้นตอนและกลไกของกฎหมายรวมถึงรัฐธรรมนูญ” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าว่า ขอยืนยันการดำเนินการของรัฐบาล จะรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง รวมทั้งเกียรติภูมิของชาติและความเป็นประชาคมอาเซียน พร้อมกันนี้รัฐบาลยังได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน รักษาอธิปไตย ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน และความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านกัน ซึ่งนอกจากมีพรมแดนติดกันเกือบ 800 กิโลเมตร ยังเป็นสมาชิกอาเซียนที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันต่อไป อีกทั้งประชาชนทั้งไทยและกัมพูชา ก็มีความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกันมาอย่างช้านานดังนั้นทั้งสองประเทศจึงจำเป็นต้องร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองประเทศ
“ในนามของรัฐบาล ขอให้ประชาชนไทย มีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดำเนินการในเรื่องนี้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและของชาติอย่างสูงสุด” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว