กล้านรงค์ชี้สังคมหนุนต้านพ.ร.บ.นิรโทษฯ แปลว่าคุณธรรม 'ตื่น' แล้ว
อดีตกรรมการป.ป.ช.ชี้คนแห่ต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม คุณธรรมจริยธรรมสังคมตื่น วอนสื่อทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ด้านอดีตอธิบดีกรมตำรวจแนะใช้สังคมออนไลน์เป็นสื่อเสนอข้อมูลถูก-ผิด
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 ภาคีเครือข่ายเสริมสร้างพลังคุณธรรมจริยธรรมของแผ่นดิน 7 องค์กร จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “พลังคุณธรรมจริยธรรมของแผ่นดินกับการแก้ไขปัญหาของชาติ” ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อาคารรัฐประสาศนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงสถานการณ์ที่ประชาชนออกมาคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ก่อนอื่นสื่อมวลชนต้องทำหน้าที่ในการรายงานข่าวให้ตรงตามข้อเท็จจริงออกสู่สาธารณชนว่า ต้นเหตุของความขัดแย้งอยู่ที่ไหนใครเป็นต้นเหตุ รวมถึงองค์กรที่มีหน้าที่กำกับดูแลต้องเข้าไปดูเหตุการณ์ว่า มีกรณีใดที่มีผลจากการขาดคุณธรรมจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรและนำส่วนที่ผิดพลาดนั้นมาจัดการแก้ไข และจะรอฟังแถลงการณ์ของภาคีเครือข่ายฯ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะออกมาเป็นแถลงการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรทางด้านคุณธรรมจริยธรรม โดยแบ่งส่วนให้แต่ละองค์กรที่เข้าร่วมภาคีเครือข่ายฯ รับผิดชอบและหาทางออกอย่างเป็นรูปธรรม
อดีตกรรมการป.ป.ช. กล่าวถึงการที่ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการ ตุลาการที่แสดงออกถึงการคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้นทำให้เชื่อว่า สังคมไทยได้ตื่นแล้ว ถือเป็นโอกาสที่ดีที่แต่ละองค์กรจะฉวยโอกาสนี้ในการสอดแทรกให้สังคมตระหนักถึงการใช้อำนาจรัฐว่า ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม และนิติธรรม รวมถึงต้องไม่ยอมให้การกระทำใดใด ที่จะเป็นการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้น
ด้านพล.ต.อ.วิสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ กล่าวถึงเรื่องจริยธรรมไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่เป็นเรื่องของศีลธรรม ที่เวลานี้เราละเลยการปลูกฝังเรื่องศีล เรื่องธรรม ข้าราชการยอมร่วมมือกับนักการเมือง ทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาโกงบ้านโกงเมืองอยู่ในขณะนี้
สำหรับปรากฎการณ์การเคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.วิสิษฐ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราอยากจะเห็นมานานแล้ว และเมื่อเกิดขึ้นก็ไม่อยากจะให้หยุดแค่นี้ เวลานี้เรามีสื่อออนไลน์ มีเฟสบุ๊ก ก็ควรให้สื่อเหล่านี้เป็นช่องทางในการนำเสนอว่าอะไรถูกต้องไม่ถูกต้อง เราต้องช่วยกันประนาม ต้องชี้หน้าคนที่ทำผิด ไม่ใช่แค่ถูกใจแล้วกดไลค์ ต้องถูกใจแล้วต้องทั้งกดไลค์ คอมเม้นต์และแชร์ต่อ
"อย่าง คนยศพ.ต.ท. ที่เป็นนักโทษหนีไปอยู่ต่างประเทศ ความจริงแล้วต้องถูกถอดยศ พ.ต.ท. กฎระเบียบต่างๆ เขียนไว้ก็ทำได้ แต่ข้าราชการที่มีอำนาจหน้าที่กลับไม่ทำอะไร ดังนั้นถ้าอยากจะให้บ้านเมืองดีขึ้นเราจะต้องร่วมกันหันหลังกลับไปยึดศีล ยึดธรรมกันใหม่"
ขณะที่พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ สมาชิกวุฒิสภา และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาจริยธรรมแผ่นดินเชิงคุณธรรม กล่าวว่า เรื่องอำนาจในการสั่งการนายกฯ ที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังนั้น เราไม่สามารถกล่าวโทษผู้อื่นได้ แต่เราต้องโทษข้าราชการที่ไม่ยอมสร้างพลังที่แข็งแกร่ง ปล่อยให้ผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ข้าราชการประจำยอมทำตามคำสั่งนักการเมือง ทั้งที่จริงแล้วนักการเมืองเปรียบเสมือนลูกจ้างข้าราชการที่มีสัญญาจ้าง 4 ปี ประเทศจะอยู่รอดได้จำเป็นต้องพึ่งพาข้าราชการประจำด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้รับผิดชอบต่อจรรยบรรณแห่งวิชาชีพ ตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นที่มีระบะราชการที่แข็งแกร่งประเทศเขาจึงอยู่ได้อย่างมั่นคง
"ผมขอฝากไปถึงข้าราชการประจำทุกคนด้วยว่า อย่าตามใจนักการเมืองมากนัก เพราะหากเกิดเรื่องขึ้นมานักการเมืองไม่โดนแต่ข้าราชการประจำโดนทุกคน และควรเป็นตัวหลักไม่ใช่ตัวรอง เพราะการล่อยให้นักการเมืองเป็นตัวหลักประเทศก็จะอยู่ยาก" พอ.อ.วีรวิท กล่าว
ส่วนนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า สังคมเราเป็นเช่นนี้นับตั้งแต่เปลี่ยนจากการเกษตรมาเป็นอุตสาหกรรม เกิดการต่อสู้แข่งขันเพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์สูงสุดและต้องพยายามทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าวิธีนั้นจะเป็นธรรมหรือไม่ ทำให้เรื่องของคุณธรรมจริยธรรมกลายเป็นเรื่องรอง ความรู้สึกว่า ต้องรับผิดชอบต่อศีลธรรมจริยธรรมน้อยลง เห็นชัดว่าความรู้สึกนึกคิดของคนสมัยนี้มองว่า การคอร์รัปชันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้หากตัวเองได้ประโยชน์ เป็นต้น