“สุภิญญา” แนะจับตา กสท.พิจารณาประกาศคุมเนื้อหารายการ
“สุภิญญา” แนะจับตาที่ประชุม กสท. 4 พ.ย.พิจารณาประกาศคุมเนื้อหารายการ หลัง “พีระพงษ์” เสนอกลับมาให้พิจารณาใหม่ หลังถอนไปปรับปรุงแก้ไข
หลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท.ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการ ได้ถอนวาระการพิจารณาเรื่องร่างประกาศ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. .... หรือร่างประกาศคุมเนื้อหารายการ ที่ออกตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 และได้นำกลับมาบรรจุระเบียบวาระการประชุม กสท.ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556 ใหม่ หลังจากมีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาร่างประกาศฯนี้บางส่วนแล้ว
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ได้น่าเชื่อว่าร่างประกาศฯนี้จะถูกนำกลับเข้ามาเพื่อพิจารณาในที่ประชุม กสท.อย่างเร่งด่วนแม้จะตัด “หมวดที่ 2 มาตรการในการออกอากาศรายการ” ออกไป ตามที่เคยถูกคัดค้านอย่างหนักก็ตาม แต่ปรากฏว่ามีการนำเนื้อหาบางส่วนที่เดิมอยู่ในหมวดที่ 2 ไปไว้ใน “หมวดที่ 1 เนื้อหารายการต้องห้ามมิให้ออกอากาศ” แทน ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ใช้วิธีแก้ไขปัญหา เพราะจะกลายเป็นมีสภาพบังคับเนื้อหาที่ต้องห้ามมากกว่าเป็นแนวทางการส่งเสริมให้ผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน จัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมและกำกับควบคุมกันเอง ภายใต้มาตรฐานจริยธรรมตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการกระจายเสียง พ.ศ.2551
“เชื่อว่าการทำเช่นนี้อาจมีแรงต้านมากกว่าเดิม ที่ผ่ามา นักกฎหมายหลายคน ก็แนะนำว่าการออกประกาศตามมาตรา 37 นี้ ขัดเส้นต่ำสุดคือไม่อนุญาตให้ใครกระโดดข้ามเส้นที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง เพราะนี่คือรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ที่เรื่องใดยังเป็นที่ถกเถียงก็ควรจะปล่อยให้ถกเถียงไป เพราะเมื่อใดที่เข้าไปขีดเส้นแล้วจะกลายเป็นว่า กสทช.กลายเป็นผู้ชี้ถูกชี้ผิดแทน” น.ส.สุภิญญากล่าว
น.ส.สุภิญญา ยังกล่าวว่า ส่วนตัวเสียใจ ที่การถอยของ กสท.คราวที่แล้ว น่าที่จะนำกลับไปทบทวนให้รอบคอบมากขึ้น กลับกลายเป็นการถอยที่ซ้ำเติมการจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อ ตามหลักการรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การเมืองเข้มข้นขณะนี้ หวั่นว่าร่างประกาศฯ นี้จะถูกโยงการเมืองเป็นเครื่องมือปิดกั้นสื่อของฝ่าย ทั้งนี้ ตนจะคัดค้านอย่างเต็มที่ และขอเรียกร้องให้สื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจการแสดงออกทางความคิดเห็น ร่วมจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ภาพประกอบ - สุภิญญา กลางณรงค์ จากอินเทอร์เน็ต