สธ.จัดระเบียบ “ถุงยางอนามัย” ฝ่าฝืนจำคุก-ปรับเงิน
รมว.สาธารณสุข ออกประกาศกำหนด “มาตรฐาน-ข้อกำหนด” เกี่ยวกับถุงยางอนามัย ให้เป็นเครื่องมือแพทย์ นำเข้า-ผลิตต้องมีใบอนุญาต กำหนดวิธีระบุข้อความบนสลาก ใครฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำคุกและปรับเงิน
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดย นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ได้ออก "ประกาศ สธ.เรื่อง ถุงยางอนามัย พ.ศ. 2556" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ถุงยางอนามัยมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และปลอดภัยในการใช้ จึงเห็นสมควรกำหนดมาตรฐานและข้อกำหนดของถุงยางอนามัย โดยประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 180 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ประกาศไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2556) มีสาระสำคัญว่า
สำหรับ “ถุงยางอนามัย” ตามประกาศนี้ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ น้ำยางสังเคราะห์หรือวัสดุอื่น ใช้สวมอวัยวะเพศชายระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เพื่อใช้คุมกำหนดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
และให้ถุงยางอนามัยเป็น “เครื่องมือแพทย์” ที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องได้รับใบอนุญาต
ประกาศนี้ยังกำหนด “มาตรฐาน” ของถุงยางอนามัย โดย 1.ถุงยางอนามัยที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ จะต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติ – คุณลักษณะที่ต้องการและวิธีทดสอบ (มอก.625-2554) และ 2.ถุงยางอนามัยที่ทำจากน้ำยางสังเคราะห์หรือวัสดุอื่น จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศ เช่น ISO 23409
นอกจากนี้ ยังมีการระบุ “ข้อกำหนด” อื่นๆ สำหรับถุงยางอนามัย อาทิ การแสดงสลากบนภาชนะบรรจุถุงยางอนามัยสำหรับขายโดยตรงต่อผู้บริโภค จะต้องมีฉลากเป็นภาษาไทยที่อ่านได้ชัดเจน ทั้งนี้ จะมีข้อความภาษาอื่นด้วยก็ได้ แต่ข้อความภาษาอื่นนั้นต้องมีความหมายตรงกับข้อความภาษาไทยและมีขนาดไม่ใหญ่กว่าข้องความภาษาไทย โดยอย่างน้อยต้องแสดงรายละเอียด 20 ประการ อาทิ ชื่อการค้า, ความกว้างระบุ, รายละเอียดถุงยางอนามัย, ชื่อและที่ตั้งของสถานที่ผลิต, เดือนปีที่หมดอายุ, เลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์, ข้อบ่งใช้ คำแนะนำในการใช้ ข้อควรระวัง, วิธีเก็บรักษา, ข้อความใช้ได้ครั้งเดียวแสดงด้วยตัวอักษรสีแดงที่เห็นได้ชัดเจน ฯลฯ เป็นต้น
(ดู ประกาศ สธ.เรื่อง ถุงยางอนามัย พ.ศ.2556 ฉบับเต็ม)
สำหรับประกาศนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 6 (1) (4) (6) และ (13) มาตรา 44 วรรคสอง และมาตรา 45 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 โดยมีบทลงโทษคือ
- ผู้ใดผลิตหรือนำเข้าถุงยางอนามัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ใดไม่แสดงสลากและเอกสารกำกับตามที่ รมว.สาธารณสุขกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท