ฮิวแมนไรท์ฯ แถลงจี้ “ปู-เพื่อไทย” ไม่รับ พรบ.นิรโทษฯ เหมาเข่ง
ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกแถลงการณ์ เรียกร้อง “ยิ่งลักษณ์-พรรคเพื่อไทย-สภาฯไทย” ปฏิเสธร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง ชี้ปล่อยคนทำผิดลอยนวล-เหยื่อเข้าไม่ถึงความยุติธรรม
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ www.hrw.org แสดงความห่วงใยกรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของสภาผู้แทนราษฎรไทย ได้มีมติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา แก้ไขเนื้อหาขยายขอบเขตของการนิรโทษกรรม ให้รวมถึงแกนนำผู้ชุมนุม ทหาร และผู้มีอำนาจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุสลายการชุมนุม เมื่อปี 2553 โดยเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภาของไทยปฏิเสธร่างกฎหมายที่จะทำให้กับผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงไม่ต้องถูกดำเนินคดี
นายแบรด อดัมส์ ผอ.ฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวผ่านแถลงการณ์ดังกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับล่าสุดจะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐและแกนนำผู้ชุมนุมที่มือเปื้อนเลือดไม่ต้องถูกลงโทษ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของรัฐบาลไม่เพียงเป็นการปิดกั้นการสร้างความยุติรรมให้กับเหยื่อ ยังทำให้ผู้ที่จะละเมิดสิทธิมนุษยชนในอนาคต รู้สึกว่าแทบไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกลัว
“และด้วยความพยายามที่จะเอาใจทหาร รวมถึงส่งเสริมวาระทางการเมือง ก็ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยโยนคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่า จะนำความยุติธรรมมาให้กับเหยื่อจากความรุนแรงทางการเมืองทิ้งไป” นายอดัมส์กล่าว
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า คาดว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 และวารที่ 3 ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งนายอดัมส์หวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบกับการก่ออาชญากรรมอย่างร้ายแรงให้ไม่ต้องถูกลงโทษ ขณะที่พรรคเพื่อไทยของเธอควรจะต้องปฏิเสธร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับล่าสุดนี้ด้วย
"ภูมิธรรม" มองพวกต้าน พรบ.นิรโทษฯ มีแต่หน้าเดิม
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับดังกล่าว ว่า เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 รวมถึงผลของมัน ไม่มีที่ใดในโลกยอมรับ จากการประเมินกระแสคัดค้าน ส่วนใหญ่เป็นคนหน้าเดิมๆ ที่ฝ่ายค้านบอกว่า ถ้าผ่านวาระที่ 3 จะเป่านกหวีดระดมคน ตนก็เห็นพูดมานานแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงก็อาจจะมีที่เห็นต่างอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เข้าใจ
“ใน ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ความขัดแย้งหลังรัฐประหาร มักจะดำรงอยู่เพียง 1-2 ปีก็จะคลี่คลาย มีเพียงครั้งนี้ที่ยาวนานกว่า 7 ปีแล้ว ยืนยันว่าการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของเรา ไม่ได้เร่งรีด รวบรัดอะไรเลย เพียงแต่เราทำสิ่งที่ต้องทำ ก็เท่านั้น” นายภูมิธรรมกล่าว
เมื่อถามว่า มีโอกาสจะถอยหรือไม่หากแรงต้านเพิ่มขึ้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงจะไปสมมุติไม่ได้ เพราะเราต้องอยู่กับความเป็นจริง ทั้งนี้ เมื่อมีคนวิจารณ์เราก็เงี่ยหูฟัง แต่ถ้ามั่นใจในสิ่งที่ทำก็เดินหน้าต่อไป