“สุณัย” ชี้อัปยศใช้นิรโทษฯ ต่อรองการเมือง-ฮิวแมนไรท์เล็งออกแถลง
“สุณัย” เผย Human Rights Watch เตรียมออกแถลงการณ์กรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง 22 ต.ค.นี้ ชี้ใช้มวลชนเป็นตัวประกันต่อรองผล ปย.ทางการเมืองน่าอัปยศ
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ที่โรงแรมรอยัล นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาประจำประเทศไทยของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวภายหลังกลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมือง พ.ศ.2553 แถลงคัดค้านกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เสียงข้างมาก มีมติแก้ไขเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในคดีสั่งสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า การแปรญัตติของ กมธ.ตอกย้ำสิ่งที่เราพูดมาตลอด คือวัฒนธรรมการทำผิด แต่ไม่ต้องรับผิดชอบ จะถูกผลิตซ้ำ ด้วยกระบวนการสมยอมทางการเมือง แล้วสัญญาณก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ประกาศว่าจะไม่ดำเนินคดีกับทหาร แต่จะกันไว้เป็นพยานเท่านั้น ทั้งที่การบาดเจ็บล้มตายส่วนใหญ่เกิดจากทหาร
“เรากังวลตั้งแต่ทีมีการนำรายงานของสถาบันพระปกเกล้ามาบิดให้เรื่องการนิรโทษกรรมเท่ากับความปรองดอง ซึ่งฮิวแมนไรท์วอทช์ท้วงตั้งแต่จุดนั้นว่า การนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งจะทำให้เกิดวัฒนธรรมว่าใช้ความรุนแรงแบบใดก็ได้ ถ้ามีการสมประโยชน์โดยอ้างเรื่องความปรองดอง สุดท้ายก็ไม่มีใครต้องรับผิด เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา และพฤษภาทิฬ ปี 2535 แล้วเหตุการณ์ปี 2553 จะจบแบบอีหรอบเดิมหรือไม่ ถ้าจบแบบเดียวกัน ในอนาคตหากมีการปะทะกัน ตีกัน ฆ่ากัน เผากัน ก็จะไปลุ้นให้มีการฮั้วกัน ไม่ต้องรับผิดอะไร”นายสุณัยกล่าว
นายสุณัยกล่าวอีกว่า องค์กรสิทธิมนุษยชนไม่ได้คัดค้านการนิรโทษกรรม แต่จะต้องมีเงื่อนไขชัดเจนว่าการกระทำเช่นใด จะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งโดยหลักแล้วความผิดที่นำมาสู่การเสียชีวิตจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะฝั่งใดก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลก็เพิ่งทุ่มงบประมาณเชิญผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาบรรยายบนเวทีสมานฉันท์ ซึ่งทุกคนก็พูดตรงกันว่า การนิรโทษกรรมเป็นแค่ปลายทาง ก่อนจะมีการสมานฉันท์ได้ ยังต้องมีขั้นตอนต่างๆ เช่น 1.ทำความจริงให้ปรากฏ เกิดอะไรขึ้น ใครเป็นผู้รับผิดชอบ 2.คนที่ละเมิดสิทธิ์ต้องสำนึกผิด ขอโทษ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และ 3.ต้องมีการหารือในวงกว้าง ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีการทำเช่นนี้ มีแค่เวทีซึ่งกระทรวงมหาดไทยจัด
“รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเหล่านั้นเลย จู่ๆ จะมาตัดตอนนิรโทษกรรมเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พอถูกต่อต้านก็ถอยออกมา แล้วเสนอร่างของนายวรชัย เหมะเข้าไป บอกว่าจะนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุม แต่ตลบหลังยัดไส้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอัปยศอย่างยิ่ง เอาข้ออ้างช่วยเหลือมวลชน มาพันกับการต่อรองทางการเมือง แล้วหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้มีปัญหา ต้องล้มไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แปรญัตติเกินกว่าวาระแรกหรือขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เท่ากับมวลชนที่ติดคุกแล้วถูกนำมาใช้เป็นตัวประกันจะถูกถีบทิ้งอย่าโหดเหี้ยมที่สุด” นายสุณัยกล่าว
นายสุณัยยังเปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ฮิวแมนไรท์วอทช์สำนักงานใหญ่ จะออกแถลงการณ์ว่า การแปรญัตติของ กมธ.เสียงข้างมาก ขัดแย้งต่อหลักการสากลอย่างไร เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่เลวร้ายอย่างไร แลวประเทศไทยยังจะมีความหวังต่อการสร้างความปรองดองสมานฉันท์หรือไม่
- ภาพประกอบ สุณัย ผาสุข จากเว็บไซต์ประชาไท