“สุเมธ” ยัน ผู้รับเหมาก่อสร้าง"จ้างช่วงงาน"บ้านธนารักษ์นนทบุรีไม่ใช่ปัญหา
“สุเมธ” ยันปัญหาบ้านธนารักษ์นนทบุรี คลีคลาย หลังครม.อนุมัติงบ 118 ล้าน เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหา ยันไม่ทราบข้อมูลผู้รับเหมาจ้างช่วงต่อ ย้ำไม่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่กระทบเนื้องาน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัทธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ( ธพส. ) กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการบ้านธนารักษ์นนทบุรี ว่ามติคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมติงบประมาณให้ ธพส. เป็นจำนวนเงิน 118 ล้านบาท เพื่อให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าแล้วเสร็จหลังจากประสบปัญหาเรื่องความล่าช้า ทั้งนี้ โครงการบ้านธนารักษ์นนทบุรีมีทั้งสิ้น 8 อาคาร ในครั้งนี้คือการเร่งก่อสร้างอาคาร 1-6 ให้แล้วเสร็จ ส่วนอาคาร 7-8 จะทำการเปิดประมูลและเสนอราคาอย่างเป็นทางการในระยะต่อไป ซึ่งตนหวังว่าการดำเนินงานครั้งนี้จะลุล่วงไปได้ในที่สุด ทั้งยินดีที่กรมธนารักษ์ และธนาคารอาคารสงเคราะห์พร้อมให้ความร่วมมือในการส่งมอบบ้านให้กับผู้สนใจที่รอคอยมานาน
ส่วนขั้นตอนการคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้ามารับงาน ในอดีตนั้น นายสุเมธ กล่าวว่า “เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเข้ามา แต่ผมเชื่อว่ากระบวนการสรรหาและเสนอราคาเป็นไปอย่างโปร่งใส ทุกบริษัทที่เข้ามาก็มีโอกาสเท่ากัน คณะกรรมการย่อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"
ส่วนที่ปรากฎข้อมูลว่าผู้เสนอราคาให้ราคาใกล้เคียงกันนั้น นายสุเมธตอบว่า "คุณต้องเข้าใจว่าเขามารับช่วงต่อจากบริษัทก่อนหน้าที่ทำค้างไว้ แล้วมันมีปัญหาเกิดขึ้นเยอะมาก ดังนั้น บริษัทที่เข้ามาสานต่อก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะกลัว เขาคงประเมินจากหลายๆ อย่างแล้ว เห็นว่ามีความเสี่ยงเขาก็เสนอมาเท่านี้ก่อน เพราะกลัว ขณะที่บริษัทไหนที่ใจกล้าก็อาจจะเสนอราคาสูงหน่อย”
ส่วนเรื่องการจ้างช่วงต่อของผู้รับเหมานั้น นายสุเมธตอบว่าไม่ว่าบริษัทไบ-เทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จะเคยรับช่วงต่อจากอิตัลไทยหรือไม่ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการก่อสร้างโครงการบ้านธนารักษ์
“พูดกันตรงๆ นะครับ ไม่ว่าบริษัทไบ-เทคฯ จะเคยรับช่วงจากอิตัลไทยหรือไม่ มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรถ้าเขาทำงานได้ดี ทำให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ การจะเป็นบริษัทลูกของอิตัลไทยหรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็น จริงอยู่ ถ้าเป็นจริง เขาก็มีเครดิต ได้รับความน่าเชื่อถือเพราะอิตัลไทยเป็นบริษัทใหญ่ แต่ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นก็ไม่ใช่เรื่องผิด มันอยู่ที่ว่าถ้าคิดจะจับผิดกัน ไม่ว่าจะเคยรับช่วงต่อหรือไม่ก็คงจะถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นทั้งนั้น” นายสุเมธระบุ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศราเคยตรวจสอบพบว่าที่ประชุมธพส. ในวันที่ 12 ธันวาคม 2553 มีมติอนุมัติให้บริษัทไบเทคฯ ได้รับผิดชอบก่อสร้างโครงการบ้านธนารักษ์ โดยผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายบริหารด้านสนับสนุน ในขณะนั้น อธิบายต่อที่ประชุมคณะกรรมการว่า “บริษัท ไบ-เทคฯ ที่ได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการบ้านธนารักษ์นนทบุรี เป็นผู้รับจ้างช่วง (Subcontractor) ของ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล้อปเมนต์ ซึ่งเคยร่วมงานโครงการศูนย์ราชการฯ และเคยรับงานของกระทรวงแรงงาน วังทวีวัฒนา, R.S Tower III Building ประกอบกับเนื้องานคงเหลือส่วนใหญ่เป็นงานระบบ หากได้ผู้รับจ้างที่มีความเชี่ยวชาญงานระบบ คาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จ”
เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายวิรัช ก้องมณีรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการของ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล้อปเมนต์ ที่รับผิดชอบโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อโครงการศูนย์ราชการฯ ว่าบริษัทไบเทคฯ เคยเป็นผู้รับช่วงต่อจากอิตาเลียนไทยจริงหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากนายวิรัชว่า
“บริษัทนี้ไม่เคยรับช่วงโครงการใดๆ ต่อจากอิตาเลียนไทยฯ ทั้งสิ้น และอิตาเลียนไทยฯ ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโครงการบ้านธนารักษ์”