“ปธ.สหภาพอสมท.” เผยหาหลักฐานสอบ เรียกเงินค่าข่าว "บีโอไอ"
“ปธ.สหภาพอสมท.” เผยหาหลักฐานสอบ เรียกเงินค่าข่าว "บีโอไอ" คอนเฟิร์มช่อง 9 ทำข่าวไม่เคยเก็บเงิน บอกขั้นผลิตรายการต้องผ่าน “ฝ่ายการตลาด” พร้อมแจ้งให้ทุกคนในกองรู้ “รักษาการหน.โต๊ะข่าวศก.” บอกสั่งลูกน้องตามขั้นตอน เผย “ผู้บริหารอสมท.” สั่งให้ทำสกู๊ปอีโคคาร์
(ภาพจาก news.voicetv.co.th)
จากกรณีที่มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง โทรศัพท์ไปขอค่าใช้จ่ายในการออกรายการสกู๊ปข่าวประชาสัมพันธ์โครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ ทางช่อง 9 อสมท. เป็นเหตุให้นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานบูรณาการข่าวสารและการประชาสัมพันธ์กระทรวงอุตสาหกรรม ทำหนังสือขอโทษไปยังช่อง 9 โดยอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดของบีโอไอ
ทั้งนี้นายชลิตรัตน์ ระบุว่า ได้ยินเรื่องดังกล่าวจากสหภาพอสมท. ส่วนเงินที่บีโอไอต้องจ่าย เป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตรายการ ซึ่งตรงกันข้ามกับนายอเนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผู้อำนวยการใหญ่อสมท. ที่ระบุว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่บีโอไอคิดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการทำข่าว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงสอบถามข้อเท็จจริงไปยังสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อสมท. เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน
นายสุวิทย์ มิ่งมล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อสมท. กล่าวว่า ตนยืนยันว่าการออกไปทำข่าวของผู้สื่อข่าวช่อง 9 จะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ถ้ามีการร้องขอจากหน่วยงานรัฐมาก็จะมีกระบวนการพิจารณา เมื่อคิดว่ามีประเด็นที่นำเสนอได้ก็จะจัดทีมให้ลงไปทำข่าว
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีการเก็บเงินจะมีอยู่ในรูปแบบจ้างผลิตรายการ โดยในขั้นตอนการจ้างผลิตรายการฝ่ายการตลาดจะเป็นคนติดต่อมา แล้วฝ่ายการตลาดก็จะหารือกับฝ่ายข่าวว่าจะมีรูปแบบรายการอย่างไร ออกอากาศในช่วงเวลาใด หลังจากนั้นฝ่ายการตลาดก็จะไปทำสัญญากับผู้ว่าจ้าง ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดหัวหน้าในกองจะรับรู้ทั้งหมด
“เมื่อมีการจ้างผลิตหัวหน้าข่าวในทุกวันต้องรู้ เพราะจะมีการลงเวลาไว้อย่างชัดเจน ไม่สามารถไปออกไม่ให้ออกอากาศได้ เพราะได้ทำสัญญากันแล้ว เมื่อออกอากาศเสร็จฝ่ายการตลาดไปนำหลักฐานในการออกอากาศไปแสดงต่อผู้ว่าจ้าง เพื่อเรียกเก็บเงิน” นายสุวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมีการทำสัญญากันหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าว่า ตนยังไม่แน่ใจ แต่สงสัยว่าไม่น่าจะมีการทำสัญญา
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสหภาพอสมท. กำลังเดินหน้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่เช่นกัน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อคนในอสมท. แต่อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน เพราะคนนอกมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงต้องรวบรวมหลักฐานให้รอบด้านมากที่สุด
ด้านนายณัฐพงศ์ ภัทรพงษ์ รักษาการหัวหน้าบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวไทย กล่าวว่า ในวันที่ตนได้สั่งให้นักข่าวเศรษฐกิจออกไปทำสกู๊ปอีโคคาร์ โดยสัมภาษณ์นายอุดมวงศ์วิวัฒน์ไชน์ เลขาธิการบีโอไอ ก็เป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง
“ซึ่งประเด็นข่าวดังกล่าวผู้บริหารเห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เลยสั่งการให้โต๊ะข่าวเศรษฐกิจไปจัดทำสกู๊ปมา ซึ่งโต๊ะข่าวเศรษฐกิจก็ติดตามเรื่องอีโคคาร์อยู่พอสมควร เมื่อลิสต์ประเด็นกันเสร็จจึงลงไปดำเนินการ ผมยืนยันว่าโต๊ะข่าวเศรษฐกิจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการเรียกเก็บเงินตามที่เป็นข่าว ผมไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย จนมาเป็นข่าวพูดกัน” นายณัฐพงศ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามปกติแล้วผู้บริหารอสมท.สามารถสั่งการให้ทุกโต๊ะข่าวไปทำข่าวในประเด็นที่ผู้บริหารเห็นว่าน่าสนใจได้ใช่หรือไม่ นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ใช่ ผู้บริหารมีอำนาจในการสั่งการได้