เครือข่ายหยุดพนัน จี้ครม.เร่งแก้ปัญหาการพนันในเด็ก-เยาวชน
ตัวแทนมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวระบุเด็กป.1 นับเลขเป็นก็เริ่มเล่นพนันแล้ว หากไม่มีมาตรการชัดเจนเชื่อสถิติการเล่นพนันจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
ผ่านมาเป็นระยะ 1 ปี ที่คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีและสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดสรรโควต้าและการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยในเอกสารของ ป.ป.ช. ได้ระบุถึงแนวทางในการจัดสรรโควต้าและการจำหน่ายสลากกินแบ่งเกินราคาว่า ควรเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และควรเปิดเผยหลักเกณฑ์และการกำหนดส่วนลดให้กับตัวแทนจำหน่าย และให้มีการเปิดเผยการดำเนินงานด้านต่างๆ ของสำนักงานสลากเพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้
ทั้งนี้ในเอกสารได้ระบุเนื้อหาที่น่าสนใจในส่วนของข้อที่ 4 ว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องออกมาตรการในการห้ามจำหน่วยสลากกับเด็กและเยาวชนและควรมีหลักประกันว่าไม่สามารถจำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชนได้อย่างจริงจัง รวมถึงต้องกำหนดบทลงโทษตัวแทนจำหน่ายอย่างจริงจังหากมีการจำหน่ายสลากให้กับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ยังเสนอแนะให้มีการจัดสรรเงินคืนสู่สังคมและชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่จุดจำหน่ายเพื่อเป็นกองทุนในการณรงค์ต่อต้านการเล่นพนัน โดยเฉพาะป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อสลาก
นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ผ่านมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้วที่ ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือแนวทางปฏิบัติให้กับคณะรัฐมนตรี หากแต่รูปธรรมในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ยังไม่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ทั้งนี้ในช่วงเดือนตุลาคมในสองปีที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมติที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพนัน เช่น ปี 2554 มีมติเห็นชอบในหลักการแก้ไข พรบ.พนัน และ ในปี 2555 ก็มีมติ รับทราบข้อเสนอแนะของ ปปช. ต่อเรื่องการจัดการจำหน่ายสลากเกินราคาฯ ซึ่งในปีนี้ตนจึงอยากให้มีการนำเรื่องปัญหาของเด็กและเยาวชนเข้ามาสู่การพิจารณาและดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน โดยแนวทางที่ควรจะมีการพิจารณาคือทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การพนันได้เหมือนกับการรณรงค์เรื่องเหล้าและบุหรี่
นอกจากนี้ควรมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการพนันว่าใช่แค่กิจกรรมที่เล่นแล้วทำให้เกิดความสนุกไม่เป็นไร เพราะมีผลวิจัยออกมาอย่างชัดเจนว่าเด็กที่เริ่มเล่นพนันตั้งแต่อายุน้อยจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสภาวะจิตใจของเด็ก จะทำให้เด็กมีความคิดที่จะลงทุนน้อย แต่คาดหวังผลสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเยาวชนของชาติในระยะยาว
นายธรากร คมกฤส หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเครือข่ายครอบครัว มูลนิธิเครือข่ายครอบครัวและผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ปัญหาของเยาวชนเกี่ยวกับการเล่นพนันสถิติจากการสำรวจจากหลายหลายที่ก็ออกไปในทิศทางเดียวกันว่าเยาวชนกว่าร้อยละ 60 เคยเล่นการพนัน และในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยเด็ก ป.1 ที่เริ่มอ่านหนังสือได้ นับเลขได้ ก็จะเริ่มเข้าสู่วงจรของการเล่นพนันแล้ว โดยเฉพาะการเล่นพนันออนไลน์ ที่เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้นในโอกาสครบรอบ 1 ปี ที่ ป.ป.ช.ได้ยื่นหนังสือให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันปัญหาพนันกับเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง รัฐก็ควรจะดำเนินการให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการสนับสนุนในเรื่องของการศึกษาวิจัย เพราะแนวคิดของรัฐบาลในเรื่องการป้องกันปัญหาพนันที่ไม่ชัดเจนอาจจะเป็นเพราะขาดองค์ความรู้ที่มองการพนันเป็นปัญหา ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่รัฐควรจะตระหนักและศึกษาเรื่องปัญหาการพนันอย่างจริงจังว่ามีผลกระทบกับสังคมและเยาวชนในหลายรูปแบบ เพราะเมื่อศึกษาอย่างชัดเจนจะทำให้การตัดสินใจของรัฐในการแก้ปัญหามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ที่มาภาพ:https://www.facebook.com/ICGCP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:พบคนไทยกว่า 32ล้านคน ติดพนัน สธ.เปิดสายด่วน 1323 รับปรึกษาปัญหา 24 ชม.