สั่ง"สรรพากร"ไล่บี้ภาษี 4,000 ล.คืน-หลังยอดเงินบัญชีอายัดเหลือแค่ 10 ล้าน
“กระทรวงคลัง”สั่ง“สรรพากร”ไล่บี้ บ.เครือข่ายรับคืนภาษี จ่ายเงิน 4,000 ล. คืน-หลังพบยอดเงินบัญชีอายัดเหลือแค่ 10 ล้าน –“อารีพงศ์” ยันอธิบดีคนใหม่ เข้าไปดูตามงานแล้ว เผยเตรียมปรับทัพใหญ่ ขรก. ทำงานไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอย ด้าน “ธาริต” ระบุ ยังไม่หมดหวังตามเงินคืน ดีเอสไอ ร่วมมือ ปปง. ขยายผลการตรวจสอบเส้นทางเงินต่อ
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2556 นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ได้มอบนโยบายให้นายสุทธิชัย สังขมณี ว่าที่อธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ ไปเร่งรัดติดตามเงินภาษีจำนวน 4,000 กว่าล้านบาท ที่กรมสรรพากร จ่ายคืนให้กับบริษัทเอกชนกลุ่มหนึ่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลับคืนมา และยืนยันว่ากระทรวงการคลัง และกรมสรรพากรจะทำงานเต็มที่เพื่อติดตามนำเงินภาษีส่วนนี้คืนกลับมาให้ได้ แม้ว่าจะมีการยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เงินในบัญชีของเครือข่ายกลุ่มบริษัทเอกชน ที่ได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไป เหลือแค่ 10 ล้าน จากยอดคืนภาษีทั้งหมด 4,000 กว่าล้านบาท ก็ตาม
“ขณะนี้อธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ กำลังเข้าไปดูข้อมูลเรื่องนี้อยู่แล้ว และกรมสรรพากรก็ทำงานใกล้ชิดกับดีเอสไอ รวมถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ในการติดตามเงินภาษีส่วนนี้กลับคืนมา”
เมื่อถามว่า คาดว่าจะตามเงินกลับคืนมาได้เท่าไร นายอารีพงศ์ ตอบว่า “ยังบอกไม่ได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ แต่กรมสรรพากรจะใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือทั้งหมด ติดตามเงินภาษีส่วนนี้คืนกลับมาให้ได้”
นายอารีพงศ์ ยังระบุด้วยว่า นอกเหนือจากการติดตามเงินภาษีกลับคืนมาแล้ว หน้าที่ของอธิบดีคนใหม่ ที่จะเข้าไปดูคือ การจัดกระบวนทัพการทำงานของเจ้าหน้าที่และข้าราชการใหม่ในพื้นที่ใหม่ เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
“ท่านอธิบดีสรรพากรคนใหม่ คงจะเข้าไปดูเรื่องการปรับระบบการทำงานใหม่ของกรมสรรพากรด้วย ซึ่งการปรับระบบใหม่ คงจะไม่แค่ดูเฉพาะพื้นที่ที่เกิดปัญหา แต่จะดูทุกพื้นที่ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก”
ส่วนนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากร ที่จะต้องไปติดตามเร่งรัดภาษีกลับคืนมาจากบริษัทเอกชน ที่ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ได้รับคืนภาษีไป แต่หากไม่สามารถดำเนินการ ก็จะต้องมีผู้รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
นายรังสรรค์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อมั่นให้กระบวนการทำงานของ ปปง.ที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตามเส้นทางการเงินอยู่ ว่าจะสามารถติดตามเงินภาษีส่วนนี้คืนกลับมาได้
“กระบวนการขอคืนเงินภาษีที่เกิดขึ้น มีการวางแผนกันมาอย่างดี ภายหลังจากกรมสรรพากรจ่ายภาษีคืนในรูปแบบของเช็ค จะมีการนำไปขึ้นเงินและกระจายออกไปตามที่ต่างๆ โยกกันไปโยกมาหลายต่อ”
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า แม้ว่าจะมีข้อมูลปรากฏว่า ยอดเงินในบัญชีของเครือข่ายกลุ่มบริษัทเอกชน ที่ได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไป เหลือแค่ 10 ล้าน แต่ประตูในการติดตามเงินส่วนนี้คืนยังไม่ได้ปิดตายลง โดยขณะนี้ทางดีเอสไอ และ ปปง. กำลังร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการติดตามเส้นทางเงินภาษีจำนวน 4,000 กว่าล้านบาท ที่ถูกจ่ายไปกลับคืนมา
“กลุ่มคนดังกล่าววางแผนโกงภาษีมาตั้งแต่ต้น จึงใช้วิธีการเบิกถอนเงินสดต่อเนื่องเป็นรายวัน วันละหลายครั้ง บางส่วนมีการนำเงินไปซื้อทองคำด้วย แต่ทางดีเอสไอ และปปง.กำลังร่วมมือทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อติดตามนำเงินภาษีที่ถูกจ่ายไปกลับคืนมาให้ได้"
"ส่วนเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่เหลืออยู่ในบัญชี เป็นแค่ข้อมูลเส้นทางการเงินเบื้องต้น ที่มีการตรวจสอบพบในขณะนี้เท่านั้น เรื่องยังไม่ถือว่าจบ ยังต้องมีการขยายผลการตรวจสอบสวนต่อไปอีก ” นายธาริตระบุ