ป.ป.ช.เรียกพยานสอบ"สรวงศ์" ถือครองหุ้นเกิน 5% -"วิเชษฐ์" พร้อมแจง กกต.
ป.ป.ช. ออกหนังสือเรียกพยาน 4-5 ปาก สอบคดี "สรวงศ์ เทียนทอง" ถือครองหุ้นเกิน 5% - คาดได้ข้อสรุปชง คณะกรรมการฯ ชุดใหญ่ ชี้ขาดเดือนต.ค.นี้
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช. ได้ออกหนังสือเชิญพยานที่เกี่ยวข้องในคดีนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือครองหุ้นเกิน 5% มาให้ปากคำเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว
"พยานที่จะถูกเชิญมาให้ปากคำมีอยู่ประมาณ 4-5 ปาก คาดว่าจะสามารถสอบปากคำได้ครบถ้วนและสรุปคดีเสนอให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2556 นี้"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับการพิจารณากรณีการถือครองหุ้นเกิน 5% ของนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นั้น ป.ป.ช.เห็นว่าภริยาของนายวิเชษฐ์ถือหุ้นบริษัทเอกชนเกิน 5% ของทุนจดทะเบียนจริง และไม่มีการแจ้งให้ประธานป.ป.ช.ทราบภายใน 30 วันนับจากวันเข้ารับตำแหน่ง เป็นการทำผิดตามพ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรีพ.ศ.2543
แหล่งข่าวกล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 ได้บัญญัติให้รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เว้นแต่รัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้ไม่เกินร้อยละห้าของทุนทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละห้าของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จำหน่ายได้ในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ในกรณีที่รัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทในส่วนที่เกินร้อยละห้า
และรัฐมนตรีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากจำนวนหุ้นที่เกินดังกล่าว มาตรา 5 กำหนดให้รัฐมนตรีต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ประธานกรรมการป.ป.ช. ทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และโอนหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นให้นิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่แจ้งให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ และจะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ทราบอีกครั้งภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้โอนหุ้นให้นิติบุคคลนั้น
"ในกรณีของคุณวิเชษฐ์ ได้ผ่านช่วงระยะเวลา 30 วันแรก มาแล้ว และไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว ข้ออ้างที่ว่ายังอยู่ในกรอบระยะเวลา 90 วัน และโอนหุ้นไปให้บริษัทจัดการแล้วจึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะถือว่าทำผิดขั้นตอนกฎหมายช่วง 30 วัน แรกไปแล้ว" แหล่งข่าวระบุ
@ วิเชษฐ์พร้อมชี้แจง กกต. ทุกประเด็น
ขณะที่ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า ตนได้รายงานบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ครบถ้วน ถูกต้อง สมบูรณ์ โดยเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดรวมถึงกรณีการถือหุ้นเกินร้อยละ 5 นับจากวันเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งกรณีการถือหุ้นเกินร้อยละ 5 และยังคงจะรับประโยชน์จากการถือหุ้นดังกล่าวนั้น กฎหมายระบุไว้ว่าจะต้องทำหนังสือแจ้งต่อประธาน ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน
“ผมไม่ได้ทำหนังสือแจ้ง ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน อีกฉบับหนึ่ง เนื่องจากผมมีเจตนาบริสุทธิ์ เพราะได้เปิดเผยการถือครองหุ้นที่เกินร้อยละ 5 ให้ ป.ป.ช. ทราบตั้งแต่ต้นแล้ว และผมได้โอนหุ้นดังกล่าวให้บริษัทจัดการหลักทรัพย์ภายใน 90 วัน ตามกรอบกฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2556 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายวิเชษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ ขั้นตอนจากนี้ ป.ป.ช. จะรวบรวมข้อมูลส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณา ซึ่งนายวิเชษฐ์ สามารถเข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวกับ กกต. ได้ ซึ่งหาก กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่านายวิเชษฐ์มีเจตนาบริสุทธ์และไม่ฝ่าฝืน ก็จะยุติเรื่องดังกล่าว แต่หาก กกต. เห็นว่าจงใจฝ่าฝืน ก็จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
ส่วนนายสรวงศ์ กล่าวว่า การถือหุ้นของตนกับของนายวิเชษฐ์มีความแตกต่างกัน เท่าที่ตนทราบนายวิเชษฐ์แจ้งว่าต้องการถือครองหุ้นต่อ แต่ของตนยืนยันว่าไม่มีความประสงค์จะถือครองหุ้น
“วันที่ 24-25 กันยายน ป.ป.ช.มีหนังสือมาให้ภรรยา แม่ของภรรยา น้องชายของภรรยา เข้าชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม เราก็ไม่ขัดข้อง พร้อมที่จะชี้แจงทุกอย่างทั้งหมด ผมบอกตามตรงเลย ผมก็กลัวป.ป.ช.ฟันพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีเหมือนกันนะ ตอนนี้ผมก็พยายามทำให้ถูกต้องทุกขั้นตอน”
------
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ฟัน "วิเชษฐ์" ถือหุ้นเกิน5% โยนศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรี
2รมต.ยิ่งลักษณ์ ถือหุ้นเกิน 5%ไม่แจ้ง ป.ป.ช. ส่อ "ปิ๋ว" ซ้ำรอย“ไชยา”