บ.ทุ่งคำ ปัดให้ข้อมูลฟ้อง 50 ล. ชาวบ้านก่อกำแพงปิดทางเข้าออกเหมืองทอง จ.เลย
ทนายความ บ.ทุ่งคำ ปัดให้ข้อมูลฟ้องปมชาวบ้านก่อกำแพงปิดทางเข้าเหมืองแร่ทองคำ จ.เลย อ้างเป็นความลับ ชุมชนยืนกรานจะสู้ต่อเพื่ออนาคตลูกหลาน
จากกรณี ‘บริษัท ทุ่งคำ จำกัด’ มีโครงการจะขยายพื้นที่ประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำในต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย ซึ่งจัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นและกำหนดขอบเขตแนวทางการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Scoping) ค.1 ที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(Environmental Health Impact Assessment:EHIA) ประกอบคำขอประทานบัตรที่ 76/2539 ไปเมื่อ 8 ก.ย. 2556 โดยมีชาวบ้านต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ในนาม ‘กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด’ พร้อมด้วยนักศึกษาจากม.ขอนแก่นและม.มหาสารคาม แสดงความจำนงขอเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นไม่ให้เข้าร่วมเวทีนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดได้แสดงพลังคัดค้าน นอกจากจัดงาน “ทำบุญภูทับฟ้า ต่อชะตาภูซำป่าบอน หาบคอนภูเหล็ก” แล้ว มีการปิดถนนกลางสี่แยก ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าโรงแต่งแร่เหมืองทองทุ่งคำที่ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้าน รวมถึงมีการก่อกำแพงปิดถนนทางเข้าเหมืองแร่ทองคำ ตามประกาศใช้ระเบียบชุมชนว่าด้วยการใช้ถนนชุมชนและการควบคุมน้ำหนักบรรทุก’ ซึ่งมีผลต่อรถบรรทุกเกิน 15 ตันและขนส่งสารเคมีอันตรายใช้ถนนในชุมชน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทุ่งคำ มอบอำนาจให้ ‘นายวิมล ศรีบุรินทร์ ทนายความ’ ยื่นฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดเลยกับแกนนำกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด จำนวน 14 คน ข้อหาการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
โดยคำฟ้องระบุว่าเป็นที่ดินของบริษัทฯ ที่ซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการก่อกำแพงปิดกั้นถนนดังกล่าว บริษัทฯ เห็นว่าได้สร้างความเสียหายแก่ธุรกิจ จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท และค่าเสียหายในอนาคตอีกวันละ 10 ล้านบาท นับจากวันที่ฟ้อง
นายสมัย ภักดิ์มี หนึ่งในผู้ถูกฟ้อง กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ฟ้องร้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย เพราะเห็นว่าชาวบ้านสร้างกำแพงปิดกั้นเส้นทางทำให้พนักงานเหมืองแร่เข้าไปทำงานไม่ได้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงมี 2-3 เส้นทาง และเส้นทางที่ถูกปิดกั้นนั้นห้ามเฉพาะรถบรรทุกเกิน 15 ตันและรถที่ขนส่งสารเคมีอันตรายเท่านั้น ส่วนรถประเภทอื่น เช่น ปิกอัพ มอเตอร์ไซต์ สามารถขับเข้าได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี ยืนยันจะสู้เพื่อความถูกต้องของชุมชนต่อไป แต่สำหรับรายละเอียดนั้นเปิดเผยไม่ได้ตอนนี้ คงต้องรอปรึกษาทนายความก่อน
ด้านนางวิรอน รุจิไชยวัฒน์ อีกหนึ่งในผู้ถูกฟ้อง กล่าวว่า บริษัท ทุ่งคำ มีสิทธิที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากชาวบ้านได้ แต่ในฐานะที่เราเป็นคนในพื้นที่จำเป็นต้องปกป้องสารเคมีอันตรายที่จะเข้ามาในชุมชน เพราะหากเราไม่ช่วยเหลือตัวเองก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย แล้วอนาคตลูกหลานจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ถึงวันนี้ยังไม่มีพนักงานบริษัทฯ เข้ามาชี้แจงชาวบ้านเลย นอกจากชาวบ้านทราบข้อมูลจากหมายศาลที่ได้รับเมื่อ 16 ก.ย. 2556 เท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยันมีกำลังใจดีอยู่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์นายวิมล ศรีบุรินทร์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ทุ่งคำ เพื่อสอบถามรายละเอียดการฟ้องร้อง โดยระบุเพียงสั้น ๆ ว่าไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะถือเป็นความลับของบริษัทฯ ทั้งนี้ หากต้องการทราบข้อมูลต้องให้ผู้สื่อข่าวลงมาสัมภาษณ์ในพื้นที่จ.เลยด้วยตนเอง