สธ. เล็งยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองกม.ภาพคำเตือนบนซองบุหรี่
ก.สาธารณสุข เตรียมยื่นศาลปกครองสูงสุดอุทธรณ์ คำสั่งคุ้มครองพื้นที่ภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ภายใน 30 วัน เตรียมเข้าแจงศาลให้ชัดเจนขึ้น ลั่นพร้อมเดินหน้าเรื่องการควบคุมการบริโภคยาสูบเพื่อประโยชน์ประชาชน
จากกรณีที่บริษัทบุหรี่ข้ามชาติแห่งหนึ่ง ได้ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่อศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอนประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแสดงรูปภาพ ข้อความคำเตือนเกี่ยวกับพิษภัยและช่องทางติดต่อเพื่อการเลิกยาสูบ ในฉลากของบุหรี่ซิกาแรต พ.ศ.2556 ที่กำหนดให้บริษัทยาสูบจะต้องเพิ่มขนาดภาพคำเตือนบนซองบุหรี่จากร้อยละ 55 เป็นร้อยละ 85 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เนื่องจากบริษัทบุหรี่แห่งนี้ อ้างว่า กระทรวงสาธารณสุขเพิกเฉยต่อเสียงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยาสูบ กลุ่มผู้ผลิต และร้านค้า เห็นว่าการออกประกาศฉบับนี้ เกินกว่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้และยังเป็นการริดรอนสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า ทำให้ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าบุหรี่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ซึ่งศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครอง ให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายไปก่อน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าววันที่ 29 สิงหาคม นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เคารพตามคำตัดสินของศาล ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายที่บริษัทบุหรี่สามารถทำได้ ทั้งนี้ความคุ้มครองดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าเป็นการตัดสิน แต่เป็นการให้ความคุ้มครองเพราะศาลเกรงว่าจะเกิดความเสียหายตามเรื่องที่ร้องไป ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะทำเรื่องอุทธรณ์การคุ้มครองของศาลปกครองกลาง โดยจะยื่นเรื่องไปที่ศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน เพื่อรอการพิจารณาจากศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเตรียมข้อมูลให้รัดกุม นำข้อมูลจุดโหว่ต่างๆ ที่ศาลให้เหตุผลในการคุ้มครองมาปรับปรุงแก้ไขเพิ่ม และชี้แจงกับศาลให้ชัดเจนเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเมื่อศาลได้รับการชี้แจงที่ชัดเจน ศาลอาจจะพิจารณาอีกครั้งในเรื่องการให้ความคุ้มครองภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ โดยจะมีฝ่ายกฎหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดเข้ามาช่วยดูในเรื่องข้อกฎหมายด้วย
อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ รัฐบาลไทย จะเดินหน้าในเรื่องการควบคุมการบริโภคยาสูบต่อไป และขอย้ำว่าประกาศฉบับนี้ไม่ได้ห้ามการใส่เครื่องหมายการค้าหรือปิดทางธุรกิจ ซึ่งการออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุขไทย ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานเอกชนสาธารณประโยชน์หรือเอ็นจีโอ และต่างประเทศที่เห็นประโยชน์จากการออกประกาศฉบับนี้