‘ชัยวัฒน์’ แนะพูดคุยปฏิรูปการเมือง 'บางเรื่อง' สำคัญ นำไปคุยนอกรอบ
'ชัยวัฒน์' เผยมีคนทาบทามร่วมวงเวทีปฏิรูปการเมือง บอกปัด เหตุงานยุ่ง ย้ำชัดการพูดคุยควรเกิดขึ้น พร้อมแนะบางเรื่องใหญ่อาจไม่ต้องคุยออกสื่อ ชี้ความรู้สึกคนในสังคมสำคัญกว่าปรองดองด้วยกฎหมาย
ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์สาขาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการด้านสันติวิธี กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการพูดคุยในเวทีปฏิรูปการเมือง ที่รัฐบาลเสนอให้เชิญชวนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกสี เข้าร่วมพูดคุยหาทางออกความขัดแย้งว่า มีคนเข้ามาทาบทามให้เข้าร่วมในเวทีปฏิรูปการเมือง แต่เนื่องจากช่วงนี้ตนค่อนข้างยุ่งจากงานที่ทำอยู่ และยังไม่ได้เตรียมการ ติดตาม หาข้อมูล จึงปฏิเสธ ขอตัวออกมาก่อน แต่หากมีการขอความเห็นในเรื่องที่มีความรู้พอก็พร้อมให้ความเห็นได้
สำหรับในประเทศไทย ศ.ดร.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า การพูดคุยกันควรจะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ว่าในกระบวนการพูดคุยจะเป็นอย่างไร เลือกใช้กระบวนการใดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีหลายด้าน บางเรื่องที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ หรือเป็นเรื่องใหญ่ อาจไม่สามารถพูดคุยในที่สาธารณะได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเสนอแนวความคิดไว้เสมอว่า อาจพูดคุยกันบนโต๊ะอาหารที่ไม่ต้องออกสื่อก็ได้ แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
"ที่ผ่านมาทุกคนรู้กันดีแล้วว่า ปัญหาของความขัดแย้งคืออะไร เนื่องจากมีการศึกษากันมานานแล้ว จากนี้ถึงเวลาที่ต้องพูดคุยกัน แต่ขึ้นอยู่กับกระบวนการจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจัดการการพูดคุยเวทีปฏิรูปการเมืองที่เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ภาคส่วนที่เหลือในสังคมที่จะผลักดันการสนทนาเช่นนี้ในรูปลักษณ์ต่างๆ ให้เกิดต่อไปได้เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า"
สำหรับท่าที่ของฝ่ายค้านนั้น นักวิชาการด้านสันติวิธี กล่าวว่า นักการเมืองเมื่อพูดในที่สาธารณะก็เป็นอย่างหนึ่ง จึงได้เสนอว่า การพูดคุยในบางเรื่องอาจต้องทำในลักษณะอื่น
ศ.ดร.ชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้คือความเกลียดชัง และการชุมนุม โดยเฉพาะผู้ที่ผลักคนออกไปชุมนุมจะมีความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวอาจไม่ได้แก้ด้วยรูปแบบวิธีที่มีอยู่เท่านั้น เพราะการปรองดองเป็นเรื่องความรู้สึกของคนในสังคมมากกว่าปรองดองด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากตนหรือใครเป็นรัฐบาลก็คงต้องหาวิธีจัดการกับความขัดแย้งที่มีอยู่ และสิ่งที่รัฐบาลคิดออก คือ การพูดคุยในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งแน่นอนว่าอาจมีผลทางการเมืองก็ว่าได้