ผลวิจัยชี้เด็กไทยควักกระเป๋าซื้อขนมไม่มีประโยชน์ มากถึงแสนล.บาท/ปี
สสส. จับมือสมาคมโฆษณา รุกโครงการ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” หวังเปลี่ยนมุมมอง เด็กอ้วนคือเด็กสมบูรณ์ ดึงเยาวชนสร้างสื่อออนไลน์
วันที่ 29 กรกฎาคม โครงการปิ๊งส์ โดยแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย สำนักโภชนาการสมวัย สำนักงานบริหารแผนงานอาหารและโภชนาการ เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” เพื่อรณรงค์สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพในเยาวชน ณ The Style by Toyota @ Siam Square
นายสง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และอุปนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย กล่าวถึงปัญหาที่พบคือเด็กไทยเลือกกินไม่เป็น ซึ่งจะโทษเด็กทั้งหมดก็ไม่ได้ แต่อยู่ที่การเลี้ยงดูของผู้ปกครองด้วย ดังนั้นหากปล่อยไปจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังจนส่งผลให้เด็กโตขึ้นเป็นคนอ้วนสูงถึง 30% เมื่อเด็กกลุ่มนี้โตเข้าสู่วัยรุ่นแล้วยังอ้วนอยู่ก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนสูงถึง 80%
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วนนั้น ที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวว่า มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะในปัจจุบันมีเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนเด็กก่อนวัยรุ่นอ้วนเพิ่มขึ้น 36% อีกทั้งผลการวิจัยยังพบว่า เด็กไทยซื้อขนมที่ไม่มีประโยชน์มีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี หรือคำนวณเฉลี่ย 9,800 บาทต่อคนต่อปี
"โรคอ้วนที่เกิดขึ้นในเด็ก เป็นโรคที่ผู้ใหญ่รังแกเด็กโดยไม่รู้ตัว เพราะพ่อแม่ หรือคนที่เลี้ยงดูหยิบยื่นโรคอ้วนให้เด็กมากกว่าที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่เข้าใจว่า เด็กอ้วนคือเด็กสมบูรณ์ เด็กอ้วนคือเด็กที่แข็งแรง เด็กผอมคือเด็กป่วย และแม้ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จะมีการรณรงค์โครงการลดอ้วน ลดพุง แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ จึงอยากให้มีสื่อที่สามารถจะจุดประกายให้พ่อแม่ ผู้ปกครองตระหนักและร่วมกันแก้ปัญหาและไม่ปล่อยให้เด็กอ้วน สื่อที่ทำจะต้องไม่มุ่งกลุ่มเป้าหมายไปที่คนอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสื่อไปให้คนรอบข้าง ผู้ปกครอง แม้กระทั้งคนใกล้ชิดรับรู้และช่วยกันบอกต่อให้กับคนอ้วนได้"
ขณะที่นายวิทวัส ชัยปาณี นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือความดันในกลุ่มเด็กเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญคือผู้ใหญ่มีทัศนคติที่ผิดในการเลี้ยงเด็ก โดยคิดว่าเด็กอ้วนคือเด็กที่น่ารัก จึงอยากให้มีการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ที่ว่าเด็กอ้วนคือเด็กป่วย น่าเป็นห่วง และต้องแก้ไขก่อนที่จะสายเกินไป
"เราหวังว่าการผลิตสื่อออนไลน์จะช่วยกระตุ้นให้พ่อแม่และผู้ปกครองตระหนักถึงอันตรายในการเลี้ยงเด็กให้อ้วน อีกทั้งโรคอ้วนไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงอยากเอาปัญหาใกล้ๆตัวมาจุดประกายให้เกิดความสนใจ ตระหนัก และร่วมกันแก้ไข และเชื่อว่าการรณรงค์โฆษณา อย่าปลอ่ยให้เด็กอ้วนจะขยายผลไปสู่วงการ ในการเริ่มต้นกลุ่มเป้าหมายอาจจะยังน้อยอยู่ แต่ถ้าเราทำโครงการไปเรื่อยๆ มั่นใจว่าจะช่วยลดภาวะโรคอ้วนได้แน่นอน"
สำหรับเยาวชนที่สนใจส่งผลงานประกวดโครงการประกวดสื่อรณรงค์ หัวข้อ "อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน" สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.PINGs.in.th, www.artculture4health.com และ www.adassothai.com รับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2556 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรศัพท์ 02-591-6461-5