อดีตอธิการบดีจุฬาฯ ห่วงวัฒนธรรมชักดาบระบาด บัณทิตกู้เงินกยศ.จบมีงานทำ ไม่ใช้หนี้
ประธานกก.บริหารศูนย์คุณธรรม ปลุกจิตสำนึกใหม่ สังคมไทยซื่อตรง จี้ผู้รู้ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมพลังวิจัยหาคำตอบความซับซ้อนของการไร้คุณธรรม จนคนปกติเข้าใจยาก หลงคิด คนไม่ดีคือคนดีมาหลายต่อหลายครั้ง
วันที่ 26 กรกฎาคม ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กีระนันท์ อดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม ปาฐกถาพิเศษ “ปลุกจิตสำนึกใหม่ สังคมไทยซื่อตรง” ในงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติครั้งที่ 6 จัดโดยองค์กรภาคียุทธศาสตร์ 25 องค์กร ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี
ศ.เกียรติคุณดร.เทียนฉาย กล่าวตอนหนึ่งถึง คำว่า "คอรัปชั่นเชิงนโยบาย" ว่า ไม่ใช่คอรัปชั่นปกติ ไม่ใช่การยื่นเงินให้เพื่อให้ทำอะไรบางอย่าง แต่ซับซ้อนกว่านั้น ถึงขั้นแก้กฎหมายกติกาเพื่อทำให้เกิดความชอบธรรม รวมไปถึงการจัดการข้อมูลสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นสิ่งที่ถูก
"ความซับซ้อนแบบนี้คนธรรมดาจะไม่เข้าใจ และอาจเข้าใจได้ยากมาก ฉะนั้น การทำงานของสมัชชาที่จะรักษาพื้นฐานการประพฤติปฏิบัติคุณธรรม จำเป็นต้องทำต่อ ดังนี้ 1.องค์กรภาคีมีสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างหลากหลาย เช่น ลดละเลิกคอรัปชั่น การรวมตัวโตไปไม่โกงของกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดต้องดำเนินการต่อไปและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" ประธานกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม กล่าว และว่า ตนมองเห็นอาการของความอ่อนแอ ความล้มเหลว ความไร้สำนึก เกี่ยวกับคุณธรรมความดีขยายตัวขึ้นในสังคมไทย ทั้งจำนวนกรณีที่เกิด ทั้งความสลับซับซ้อนที่เป็นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ดังนั้น ถึงเวลาที่ผู้รู้ผู้ทรงคุณวุฒิ จะรวมพลังกันวิจัยหาคำตอบให้ได้เหตุและผล ถึงความซับซ้อนของการไร้คุณธรรม ที่มีความซับซ้อนมากจนคนปกติเข้าใจยาก จนทำให้เราหลงผิดว่า คนไม่ดีคือคนดีมาหลายต่อหลายครั้ง
ประธานกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม กล่าวต่อว่า 2. ต้องระดมความคิดจากหลายองค์กรมาแก้ปัญหาคุณธรรม จริงๆ ส่งเสริมอย่างเดียวไม่พอ แก้ปัญหาอย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องทำทั้ง 2 ด้านรวมกัน และอาจจะต้องเลยไปถึงการป้องกันและคอยฟังระวัง
3. ความพยายามในการแก้ปัญหาโดยไม่รู้สถานะของปัญหา ไม่รู้เรื่องการแก้ไขที่เหมาะสมอย่างแท้จริง ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา มีความกล้าๆ กลัวๆ เบื่อๆ หยาบ ๆ ทำไม่ต่อเนื่อง รณรงค์เสร็จก็เลิก จนทำให้เกิดความด้านชากับการแก้ปัญหา ซึ่งต้องระวังมาก เนื่องจากจะส่งผลร้ายที่แรงกว่าเดิม
4. อาการปัญหาบางอย่างไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุเดียวแล้วง่ายต่อการเข้าใจ แต่เป็นปัญหาแบบลูกโซ่ กรณีการอาศัยสมณเพศทำมาหากิน เป็นคดีที่ดำเนินออกมาหลายชุด เราเริ่มเห็นปัญหามีตัวละครที่ถูกกล่าวหามากขึ้นเรื่อยๆเป็นรายวัน
5.หลายกรณีเกิดจากประเด็นเล็กๆในชุมชน ครอบครัว มีการเพิกเฉย ไม่ได้รับการพิจารณา ไม่ใส่ใจแก้ไข เนื่องจากมองว่า เป็นเรื่องไกลตัวหรือธุระไม่ใช่
"สังคมไทยในเมืองเป็นสังคมธุระไม่ใช่มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จักแม้กระทั่งคนข้างบ้านว่าเป็นใคร ผลสุดท้ายสังคมก็ได้ปัญหาคุณธรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากไม่ใส่ใจไม่แก้ไข ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า ปัญหาที่แก้ไม่ได้หรือไม่ได้แก้ แต่เพราะคำว่า เกรงใจคำเดียว ส่งผลให้แก้ปัญหาไม่ได้จนถึงวันนี้"
ศ.เกียรติคุณดร.เทียนฉาย กล่าวถึงอาการวิกฤติของการศึกษา ที่ปรากฎเป็นข่าว ทั้งเรื่องการทุจริต การบกพร่องในการสอบคัดเลือกครู กว้างขวางจนเป็นการทุจริตระดับชาติ จับการทุจริตข้อสอบถึงขั้นเป็นอุตสาหกรรมการทุจริต ถึงระดับอุดมศึกษา และล่าสุดก็มีข่าวแก้เกรด แก้คะแนน จึงเกิดคำถามว่า เราจะอยู่ได้อย่างไรในสังคมนี้ หรือกรณีการบกพร่องการศึกษาที่ทำให้นักเรียนขัดแย้งกัน รุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้อง วงการการศึกษามุ่งหารายได้เชิงพาณิชย์ ใช้วิธีการที่ไร้จรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ แย่งหาลูกค้าเข้าเรียน ไม่ได้คำนึงถึงผลของการศึกษา
ทั้งนี้ ประธานกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม กล่าวด้วยว่า ในวงการศึกษายังมีอีกอย่างหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัว คือ การกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา กยศ หรือกรอ. หนักหนาที่กยศ. จำนวนสูงมาก คือ จบแล้วมีงานทำแล้วไม่ใช้คืน หรือส่งคืนเพียงครั้งเดียว พอเห็นเพื่อนไม่ส่งก็ไม่ส่งตาม และหากอยากได้คืนให้ฟ้องเอา จนเกิดเป็นวัฒนธรรม ซึ่งนับว่า อาการหนักหนามาก
"ไม่ต่างจากวงการศาสนา หรือวิกฤติในระบบราชการก็ใกล้เคียงกัน โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ความบกพร่องจากการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานราชการ มีความรุนแรงขึ้น ไร้ประสิทธิภาพ มีการปิดบังอำพรางข้อมูลของราชการ เช่น อยากรู้ว่า ข้าวรับจำนำมาเท่าไร ขายไปให้ใครบ้าง ขายราคาเท่าไร ตอนนี้เหลือเท่าไร แต่กลับมีการสร้างหลักฐาน กฎกติกา ทำให้สิ้นสภาพ ขณะเดียวกันพนักงานของรัฐดีๆ เกิดความท้อถอย เพราะคนที่นั่งข้างๆ ทำชั่วแล้วได้ดี นี่คือวิกฤติใหญ่ที่เกิดขึ้น"
สำหรับการป้องกันไม่ให้คุณธรรมเสื่อมสลาย ประธานกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม กล่าวด้วยว่า มีอยู่ 3 อย่าง คือ 1.คุณธรรมจะหมายถึงความดี อะไรคือความดีทุกคนตัดสินได้ 2.ความซื่อ หมายถึงทั้งซื่อสัตย์และซื่อตรง 3.ความรับผิดชอบ รับผิดชอบตัวเอง ครอบครัว และสังคม ถ้าเราแต่ละคนเพียงทำความดี รักความซื่อตรง รับผิดชอบ อย่าผลักความรับผิดชอบ เพียงเท่านั้น เราจะได้คำตอบ ที่จะคืนสู่สังคมไทยได้ชัดเจนมาก